นักวิเคราะห์จากบริษัทเอเวอร์คอร์ ไอเอสไอ (Evercore ISI) ประเมินว่า เหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตอะลูมิเนียมของบริษัทโนเวลิส (Novelis) ในรัฐนิวยอร์กเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา อาจส่งผลกระทบต่อการผลิตรถกระบะรุ่น F-150 ของฟอร์ด มอเตอร์ (Ford Motor) เป็นเวลาหลายเดือน และอาจฉุดผลประกอบการของฟอร์ดลดลงมากถึง 1 พันล้านดอลลาร์
โนเวลิสคาดว่า โรงงานจะต้องหยุดดำเนินการส่วนใหญ่ไปจนถึงไตรมาส 1/2569 ซึ่งจะกระทบต่อการส่งมอบอะลูมิเนียมให้กับฟอร์ด โดยเฉพาะสำหรับการผลิตรถกระบะรุ่น F-150 ซึ่งเป็นรุ่นขายดีที่สุดของฟอร์ด
หลังมีรายงานข่าวดังกล่าว ราคาหุ้นของฟอร์ดร่วงลงราว 6% เมื่อวันอังคาร (7 ต.ค.)
โฆษกของฟอร์ดระบุในแถลงการณ์ว่า โนเวลิสเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์อะลูมิเนียมหลายรายของฟอร์ด โดยนับตั้งแต่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ฟอร์ดได้ทำงานร่วมกับโนเวลิสอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อบริหารสถานการณ์และพิจารณาทางเลือกต่าง ๆ เพื่อลดผลกระทบจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่า แม้ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ฟอร์ดน่าจะเป็นรายที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยคาดว่าผลกระทบต่อกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) จะอยู่ในช่วง 500 ล้านถึง 1 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ เหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งแรงกดดันต่อฟอร์ด ซึ่งกำลังเผชิญกับต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น สภาวะการค้าที่ผันผวน และซัพพลายเออร์ที่ยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัวจากการหยุดผลิตในช่วงโควิด-19 ระบาด และการนัดหยุดงานของสหภาพแรงงานในปี 2566
ทั้งนี้ ฟอร์ดเริ่มหันมาใช้ตัวถังอะลูมิเนียมในรถกระบะรุ่น F-150 มากว่าทศวรรษแล้ว เพื่อช่วยลดน้ำหนักของตัวรถ และฟอร์ดมีกำหนดประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ภายในเดือนนี้