เจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ออกรายงานคาดการณ์ว่า ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะผ่อนคลายลงในการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ที่มีกำหนดจัดขึ้นนอกรอบการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปก (APEC) ที่เมืองคยองจู ประเทศเกาหลีใต้
'เรายังคงคาดว่าประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะพบปะกันในการประชุม APEC ซึ่งจะจัดขึ้นที่เกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึง 1 พฤศจิกายน ซึ่งผลลัพธ์ที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ สหรัฐจะไม่เรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มอีก 100% ต่อจีน หรืออย่างน้อยสิ่งนี้จะยังไม่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง และการตั้งข้อจำกัดด้านการส่งออกของทั้งสองฝ่ายจะถูกผ่อนคลายลงมากพอที่จะไม่กลายเป็นการห้ามส่งออกโดยสิ้นเชิง'
'อย่างไรก็ดี ในระหว่างนี้จนถึงวันประชุมดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายอาจยังมีการยกระดับความตึงเครียดเพิ่มเติม และไม่ใช่ทุกประเด็นที่จะได้รับการแก้ไขในการประชุมสุดยอดที่เกาหลีใต้' นายอาเบียล ไรน์ฮาร์ต นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน ระบุในรายงาน
นายไรน์ฮาร์ตยังเตือนว่า 'หากไม่มีการบรรลุข้อตกลงพักรบทางการค้าชั่วคราว และมีการบังคับใช้มาตรการขึ้นภาษีศุลกากร 100% ต่อจีน ผลลัพธ์จะเท่ากับการห้ามส่งออกสินค้าจากจีนมายังสหรัฐโดยปริยาย ส่งผลให้การผลิตในภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐหยุดชะงัก ทำให้สหรัฐจะทำการตอบโต้เพื่อขัดขวางการพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน และอาจทำให้สหรัฐจำกัดการส่งออกสินค้าประเภทอื่น ๆ ไปยังจีนด้วย'