เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยในวันพุธ (15 ต.ค.) ว่า การปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ หรือชัตดาวน์ที่ดำเนินมาแล้วสองสัปดาห์ อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ สูญเสียผลผลิตสูงสุดถึงสัปดาห์ละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยแก้ไขข้อมูลก่อนหน้านี้ของ สก็อตต์ เบสเซนต์ รมว.คลังสหรัฐฯ ที่ประเมินความเสียหายสูงสุดไว้ถึงวันละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ เบสเซนต์ใช้ตัวเลขประมาณการที่ไม่ถูกต้องในการแถลงข่าวสองครั้งก่อนหน้านี้ ขณะที่เขาเรียกร้องให้พรรคเดโมแครตร่วมมือกับพรรครีพับลิกันเพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาล
เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังระบุว่า การประเมินความเสียหายนี้อิงจากรายงานของคณะที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของทำเนียบขาว
เบสเซนต์กล่าวในการแถลงข่าวว่า การปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางเริ่มส่งผลกระทบต่อความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
เขากล่าวว่า กระแสการลงทุนในเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงการลงทุนในปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงต่อเนื่องและเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น แต่การปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางเริ่มเป็นอุปสรรคมากขึ้น
เบสเซนต์กล่าวในงาน CNBC ที่จัดขึ้นนอกรอบการประชุมประจำปีของกองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลกที่วอชิงตันว่า มีอุปสงค์รอคอยอยู่ แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ปลดปล่อยการขยายตัวทางเศรษฐกิจด้วยนโยบายของเขา ขณะที่สิ่งเดียวที่ชะลอการเติบโตในตอนนี้คือการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลาง