ราคาซื้อขายข้อมูลบัตรเครดิตบน Dark Web เพิ่มขึ้นทั่วโลก ญี่ปุ่นแพงสุด ไทยอันดับ 3 เอเชีย

ข่าวต่างประเทศ Friday November 7, 2025 14:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ผลการศึกษาวิจัยล่าสุดจาก NordVPN เผยให้เห็นว่า การซื้อขายข้อมูลบัตรชำระเงินที่ถูกขโมยในตลาดมืดออนไลน์ (ดาร์กเว็บ) มีราคาปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก โดยบัตรชำระเงินญี่ปุ่นติดอันดับราคาซื้อขายข้อมูลสูงที่สุดสำหรับกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ ที่ราคา 22.80 ดอลลาร์ (737 บาท) ส่วนราคาซื้อขายข้อมูลบัตรชำระเงินของไทยแพงเป็นอันดับ 3 ในเอเชีย โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 15.08 ดอลลาร์ (487 บาท) สูงกว่าราคาเฉลี่ยทั่วโลกซึ่งอยู่ที่ 8 ดอลลาร์ (258 บาท)

รายงานของ NordVPN พบว่า สหรัฐอเมริกาครองแชมป์บัตรชำระเงินถูกขโมยมากที่สุดในโลก โดยกว่า 60% ของบัตรที่ถูกขโมยทั่วโลกเป็นของชาวอเมริกัน ตามมาด้วยสิงคโปร์ประมาณ 11% และสเปน 10%

อย่างไรก็ตาม การถูกขโมยเยอะไม่ได้หมายความว่าราคาจะสูงตามไปด้วย โดยข้อมูลบัตรที่ถูกขโมยจากสหรัฐฯ มีราคาเฉลี่ยอยู่กลาง ๆ ที่ 11.51 ดอลลาร์ ในขณะที่ราคาแพงที่สุดมาจากญี่ปุ่น ส่วนราคาต่ำสุดเป็นบัตรจากสาธารณรัฐคองโก บาร์เบโดส และจอร์เจีย สามารถขายได้ในราคาเพียงประมาณ 1 ดอลลาร์

เอเดรียนัส วอร์เมนโฮเวน ที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ NordVPN อธิบายว่า การที่ประเทศใดประเทศหนึ่งมีข้อมูลบัตรถูกขโมยในปริมาณมากนั้น ไม่ได้หมายความว่าผู้คนในประเทศนั้นมีความเสี่ยงสูงกว่าเสมอไป แต่อาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น การพัฒนาของเศรษฐกิจดิจิทัล และการชำระเงินออนไลน์ที่แพร่หลายในประเทศนั้น ๆ

ทั้งนี้ ดาร์กเว็บคือส่วนหนึ่งของอินเทอร์เน็ตที่ถูกซ่อนไว้โดยเจตนา ไม่สามารถเข้าถึงได้ผ่านเสิร์ชเอนจินทั่วไป ผู้ใช้สามารถปิดบังตัวตนและพิกัดตำแหน่ง และบ่อยครั้งถูกอาชญากรใช้เป็นแหล่งขายข้อมูลส่วนบุคคลที่ขโมยมา

รายงานระบุว่า ข้อมูลบัตรชำระเงินที่ถูกขโมยมีการซื้อขายเปลี่ยนมือในตลาดเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา และข้อมูลที่ถูกขายไม่ได้มีแค่หมายเลขบัตรเท่านั้น แต่รายการซื้อขายยังรวมถึงชื่อ ที่อยู่ อีเมล และรายละเอียดอื่น ๆ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้อาชญากรสามารถหลีกเลี่ยงการตรวจสอบการฉ้อโกงและสวมรอยเป็นเจ้าของบัตรตัวจริงได้

วอร์เมนโฮกล่าวเสริมว่า โดยทั่วไปแล้ว บัตรชำระเงินจากประเทศที่มีเศรษฐกิจพัฒนาแล้วมักไม่ใช่เป้าหมายหลักของอาชญากรไซเบอร์ เนื่องจากประเทศเหล่านี้มักจะมีระบบต่อต้านการฉ้อโกงที่แข็งแกร่งและมีการคุ้มครองลูกค้าที่เข้มงวดกว่า

ปัจจัยกำหนดราคาบัตรในตลาดมืด

จากการวิเคราะห์พบว่า ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ราคาซื้อขายข้อมูลบัตรชำระเงินที่ถูกขโมยเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในนิวซีแลนด์ที่ราคาเพิ่มขึ้นกว่า 444% ตามมาด้วยอาร์เจนตินา 368% และโปแลนด์ 221% ขณะที่ฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยที่ 18%

อย่างไรก็ตาม แม้ราคาจะสูงขึ้น แต่ข้อมูลบัตรก็ยังคงมีราคาถูกพอที่อาชญากรมือใหม่จะสามารถเข้าถึงได้ โดยทั่วโลก ข้อมูลบัตรชำระเงินที่ถูกขโมยส่วนใหญ่ถูกขายในราคาเฉลี่ยประมาณ 8 ดอลลาร์สหรัฐ

"ในตลาดมืดขนาดใหญ่ ข้อมูลบัตรที่ถูกขโมยหนึ่งใบมีราคาพอ ๆ กับตั๋วชมภาพยนตร์หนึ่งใบเท่านั้น อาชญากรจึงเลือกที่จะซื้อข้อมูลเหล่านี้เพื่อนำไปก่ออาชญากรรม เข้ายึดบัญชี หรือทำการทุจริตในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อเปลี่ยนเงินของผู้อื่นให้เป็นเงินสด" วอร์เมนโฮเวนกล่าว

NordVPN ระบุว่า การกำหนดราคาบนดาร์กเว็บส่วนใหญ่เป็นไปตามกลไกอุปสงค์และอุปทาน โดยอาชญากรจะยอมจ่ายในราคาที่สูงกว่าสำหรับบัตรจากประเทศที่หาได้ยาก (อุปทานต่ำ) และมีมาตรการควบคุมการฉ้อโกงที่เข้มงวด เช่น ญี่ปุ่น ส่วนในตลาดที่มีข้อมูลจำนวนมาก เช่น สหรัฐฯ หรือสเปน บัตรจะมีราคาถูกกว่า และมักถูกขายแบบเหมาเป็นชุดจึงทำให้ราคาต่อบัตรลดลง

"ความเข้มแข็งของการบังคับใช้กฎหมายและความมั่นคงทางการเมืองก็มีส่วนในการกำหนดความเสี่ยงและราคาด้วย โดยความเสี่ยงในที่นี้หมายถึงความก้าวหน้าของผู้ให้บริการบัตรในการตรวจจับการฉ้อโกงและความรวดเร็วในการรับมือ" วอร์เมนโฮเวนกล่าว พร้อมกับเสริมว่า "บัตรที่มีวันหมดอายุนานกว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น โดยประมาณ 87% ของบัตรที่เราสังเกตยังคงสามารถใช้งานได้นานกว่า 12 เดือน ทำให้ง่ายต่อการนำไปขายต่อ"

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาเป็นรายภูมิภาคพบว่า ในยุโรป สเปนนำมาเป็นอันดับหนึ่งด้วยราคาเฉลี่ย 11.68 ดอลลาร์ ตามมาด้วยฝรั่งเศส 11.07 ดอลลาร์ และสวิตเซอร์แลนด์ 11.96 ดอลลาร์

สำหรับทวีปเอเชีย ญี่ปุ่นมีราคาสูงที่สุด เฉลี่ยอยู่ที่ 22.80 ดอลลาร์ ตามมาด้วยคาซัคสถาน 16.87 ดอลลาร์ และประเทศไทย 15.08 ดอลลาร์

ส่วนบัตรชำระเงินของอินเดียมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 7.92 ดอลลาร์ และของจีนมีราคา 7.99 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 134% จากปี 2566 ที่ราคาบัตรชำระเงินอยู่ที่ 3.40 ดอลลาร์

ในโอเชียเนีย ราคาเฉลี่ยในนิวซีแลนด์อยู่ที่ 13.39 ดอลลาร์ และออสเตรเลีย 9.11 ดอลลาร์

ขณะที่ในอเมริกาเหนือและอเมริกากลาง เอลซัลวาดอร์มีราคาแพงสุด 15.80 ดอลลาร์ ตามมาด้วยสหรัฐอเมริกา 11.51 ดอลลาร์ และแคนาดา 5.88 ดอลลาร์ ส่วนในอเมริกาใต้ โคลอมเบียนำมาที่ 14.52 ดอลลาร์ ตามมาด้วยชิลี 12.52 ดอลลาร์ และในแอฟริกา โมซัมบิกแพงสุดที่ 16.38 ดอลลาร์ รองลงมาเป็นโมร็อกโก 11.95 ดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ