สื่อต่างประเทศรายงานว่า เมตา (Meta) บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก (Facebook) และอินสตาแกรม (Instagram) ประเมินว่า 10% ของยอดขายรวมในปี 2567 หรือคิดเป็นมูลค่าราว 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.2 แสนล้านบาท) มาจากโฆษณาออนไลน์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการหลอกลวงและสินค้าต้องห้าม
รอยเตอร์รายงานโดยอ้างถึงเอกสารภายในของบริษัทที่ระบุว่า โฆษณาประเภทดังกล่าว ซึ่งครอบคลุมถึงการโปรโมตอีคอมเมิร์ซและการลงทุนปลอม กาสิโนออนไลน์ผิดกฎหมาย และการขายผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ถูกสั่งห้าม โดยเอกสารเหล่านั้นแสดงให้เห็นถึงความพยายามของบริษัทในการวัดความแพร่หลายของโฆษณาฉ้อโกงบนแอปพลิเคชันของบริษัทอย่างเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม
ในปี 2567 เมตาสามารถทำยอดขายรวมได้มากกว่า 1.645 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัทประกาศว่า ยอดขายในไตรมาส 3/2568 เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 5.124 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้ปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายขั้นต่ำรวมสำหรับทั้งปีขึ้น 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนครั้งใหญ่ในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI)
เอกสารเมื่อเดือนธ.ค. 2567 ระบุว่า ในแต่ละปี เมตาทำยอดขายได้ประมาณ 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากสิ่งที่เรียกว่า "โฆษณาหลอกลวงความเสี่ยงสูง" ซึ่งเป็นการโฆษณาที่มีลักษณะหลอกลวงอย่างชัดเจน ขณะที่เอกสารอีกฉบับระบุว่า ในแต่ละวัน เมตาแสดงโฆษณาหลอกลวงความเสี่ยงสูงเหล่านี้ให้แก่ผู้ใช้ถึง 1.5 หมื่นล้านครั้งโดยประมาณ
แม้เอกสารบางส่วนจะแสดงให้เห็นว่า เมตามีเป้าหมายที่จะลดจำนวนโฆษณาปลอมบนแพลตฟอร์ม แต่ขณะเดียวกัน เอกสารอีกจำนวนหนึ่งชี้ให้เห็นว่า บริษัทมีความกังวลว่าการถอดโฆษณาฉ้อโกงออกไปอย่างกะทันหันอาจส่งผลกระทบต่อการคาดการณ์ทางธุรกิจ
ด้านโฆษกของเมตากล่าวในแถลงการณ์ว่า บริษัทจัดการกับโฆษณาหลอกลวงและฉ้อโกงบนแอปพลิเคชันของตนอย่าง "เข้มข้น" พร้อมชี้แจงว่า การคาดการณ์ที่ระบุว่า 10% ของยอดขายโฆษณาในปี 2567 มาจากโฆษณาปลอมนั้นเป็นเพียงการประมาณการคร่าว ๆ และครอบคลุมมากเกินไป ไม่ใช่ตัวเลขที่แน่นอนหรือเป็นที่สุด แท้จริงแล้ว การตรวจสอบในภายหลังได้เผยให้เห็นว่า โฆษณาเหล่านี้จำนวนมากไม่ได้ละเมิดกฎเกณฑ์แต่อย่างใด
โฆษกกล่าวเพิ่มเติมว่า "น่าเสียดายที่เอกสารที่รั่วไหลออกมานำเสนอเพียงมุมมองบางส่วนที่ถูกเลือก ซึ่งเป็นการบิดเบือนแนวทางที่เมตาใช้ในการจัดการกับการฉ้อโกงและการหลอกลวง โดยเน้นที่ความพยายามของเมตาในการประเมินขนาดของปัญหาเท่านั้น ไม่ได้รวมถึงการดำเนินการทั้งหมดที่เราได้ทำไปเพื่อแก้ไขปัญหานี้"