💥*บิตคอยน์หลุด $100,000 เข้าสู่ภาวะหมี คาดซึมยาวอีกหลายสัปดาห์

บิตคอยน์ดิ่งลงหลุดระดับ 100,000 ดอลลาร์ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสำคัญทางจิตวิทยา ขณะที่นักลงทุนพากันส่งแรงเทขายเข้าสู่กองทุน Spot Bitcoin ETF ท่ามกลางความกังวลต่อการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. และความวิตกเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ของหุ้นในธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI)

ที่ผ่านมา บิตคอยน์มักมีความเคลื่อนไหวสอดคล้องกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและดัชนี Nasdaq ในตลาดหุ้นสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจำนวนมากมองว่า หุ้นกลุ่ม AI และบิตคอยน์อยู่ในกลุ่มการลงทุนประเภทเดียวกัน หรือการลงทุนในสินทรัพย์นวัตกรรม (innovation trade) ซึ่งเมื่อมูลค่าหุ้นและคริปโทเคอร์เรนซีเริ่มดูแพงเกินไป นักลงทุนจึงเริ่มเทขายทำกำไรทั้งในหุ้นเทคโนโลยีและบิตคอยน์ หลังจากราคาพุ่งขึ้นอย่างมากในช่วงต้นปี

ณ เวลา 19.40 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์ร่วงลง 3.45% สู่ระดับ 94,939 ดอลลาร์ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coin Metrics

นอกจากนี้ บิตคอยน์ทรุดตัวลงมากกว่า 20% จากระดับสูงสุดที่ทำไว้ในปีนี้

การดิ่งลงของบิตคอยน์ในวันนี้ ส่งผลให้มูลค่าตลาดของคริปโทเคอร์เรนซีร่วงลง 3.8% สู่ระดับ 3.41 ล้านล้านดอลลาร์ และลดลง 4.50 แสนล้านดอลลาร์นับตั้งแต่เดือนต.ค.

ทั้งนี้ กองทุน Spot Bitcoin ETF เผชิญการไหลออกของเงินทุนมากถึง 278 ล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้ ขณะที่นักลงทุนระยะยาวเทขายบิตคอยน์ 815,000 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าราว 7.9 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ทำสถิติการเทขายสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2567

นักวิเคราะห์เตือนว่าขณะนี้ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีได้เข้าสู่ภาวะหมี ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดจะยังคงปรับตัวซบเซาต่อไปอีกหลายสัปดาห์

สถิติที่ผ่านมาระบุว่า ภาวะหมีในปี 2567 และต้นปี 2568 ได้ทำให้มูลค่าตลาดคริปโทเคอร์เรนซีวูบหายไปราว 30-40%

สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้แนวรับถัดไปของบิตคอยน์อยู่ที่ 93,000 ดอลลาร์ ซึ่งหากหลุดระดับดังกล่าว บิตคอยน์ก็จะปรับฐานลงลึกมากยิ่งขึ้น