หยาง หลิว ประธานฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ตามสัญญารายใหญ่ที่สุดของโลก เปิดเผยว่า บริษัทจะลงทุน 23 พันล้านดอลลาร์ต่อปีในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขณะที่คาดการณ์ว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จีนกำลังเข้าสู่ช่วงปรับฐาน
หลิวกล่าวว่า ขณะนี้ AI จะเป็นสัดส่วนการลงทุนหลัก โดยการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนา AI ในช่วง 35 ปีข้างหน้าจะคิดเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของงบลงทุนประจำปีซึ่งอยู่ที่ราว 5 พันล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งเผยกับรอยเตอร์ในระหว่างเดินทางเยือนกรุงโตเกียวเมื่อต้นเดือนนี้ด้วยว่า บริษัทกำลังเจรจากับรัฐบาลญี่ปุ่นเกี่ยวกับโอกาสลงทุนใน AI และ EV
รายงานระบุว่า ธุรกิจคลาวด์และเครือข่าย รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ AI ของฟ็อกซ์คอนน์ มีรายได้แซงหน้ากลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคติดต่อกันสองไตรมาส สะท้อนการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโครงสร้างรายได้ของบริษัท
นอกจากนี้ ประธานฟ็อกซ์คอนน์ยังประเมินว่า ตลาดรถ EV ของจีนจะเกิดการปรับตัวครั้งใหญ่ ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด โดยคาดว่าจะมีการควบรวมกิจการเมื่อผู้ผลิตที่ขาดทุนทยอยออกจากตลาด โดยเฉพาะเมื่อการสนับสนุนจากภาครัฐลดลง
หลิวระบุว่า หลายบริษัทไม่มีกำไร และการสนับสนุนจากรัฐบาลไม่เพียงพอสำหรับผู้ผลิตทุกเจ้า อย่างไรก็ดี ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนจะมีเสถียรภาพมากขึ้นหลังผ่านช่วงปรับฐาน
ทั้งนี้ แรงกดดันต่อผู้ผลิต EV ในจีนเริ่มเห็นชัดขึ้น โดย บีวายดี (BYD) ผู้ผลิตรถ EV ชั้นนำของจีน รายงานกำไรไตรมาสล่าสุดลดลงมากที่สุดในรอบกว่าสี่ปี ขณะที่ต้องเผชิญการแข่งขันจากคู่แข่งภายในประเทศ และปรับลดเป้าหมายยอดขายปี 2568 เหลือ 4.6 ล้านคัน