รัฐบาลอังกฤษกำลังเดินหน้ามาตรการยกเลิกการยกเว้นภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าที่มีราคาต่ำกว่า 135 ปอนด์ โดยกระทรวงการคลังเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (21 พ.ย.) ว่า ราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีคลัง ตั้งเป้าเพิ่มรายได้เข้ารัฐราว 500 ล้านปอนด์ต่อปีจากการปรับระบบภาษีดังกล่าว
แผนของรัฐบาลมีขึ้นในช่วงที่ผู้ค้าปลีกภายในประเทศเรียกร้องให้แก้ปัญหาการแข่งขันที่ไม่เสมอภาค โดยเฉพาะเชนเสื้อผ้าเน็กซ์ (Next) และ Associated British Foods (ABF) เจ้าของไพรมาร์ก (Primark) ซึ่งเห็นว่าผู้ขายออนไลน์ในต่างประเทศได้เปรียบอย่างไม่เป็นธรรม เนื่องจากผู้บริโภคในอังกฤษที่ซื้อสินค้าจากร้านออนไลน์ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในจีนไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า หากราคาสินค้าต่ำกว่าระดับที่กำหนด แม้ผู้ค้ารายใหญ่ในประเทศต้องจ่ายภาษีนำเข้าสินค้าจำนวนมากที่สั่งเข้ามา
รีฟส์ยืนยันก่อนหน้านี้ว่า งบประมาณประจำปีที่จะประกาศในวันที่ 26 พ.ย. จะไม่เพิ่มภาระค่าครองชีพให้ครัวเรือน แต่เห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่ร้านค้าท้องถิ่นควรได้รับโอกาสแข่งขันอย่างเป็นธรรม พร้อมทั้งผลักดันให้เศรษฐกิจและการจ้างงานทั่วประเทศเติบโตต่อเนื่อง
กระทรวงการคลังระบุเพิ่มเติมว่า การยกเลิกการยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าราคาต่ำจะถูกรวมอยู่ในงบประมาณครั้งนี้ และจะเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับวิธีดำเนินการระบบศุลกากรใหม่ โดยประเมินว่าผลกระทบต่อราคาสินค้าสำหรับผู้บริโภคจะอยู่ในระดับต่ำ
มาตรการล่าสุดของอังกฤษยังสอดคล้องกับทิศทางนโยบายระหว่างประเทศ ทั้งการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เพิ่งยกเลิกการยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้ามูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนส.ค. และสหภาพยุโรปที่กำลังเตรียมดำเนินมาตรการคล้ายกันสำหรับสินค้ามูลค่าต่ำกว่า 150 ยูโร