ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกในวันนี้ (26 พ.ย.) ตามทิศทางตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ปรับตัวขึ้นเมื่อวานนี้ จากความหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
ความคาดหวังเพิ่มสูงขึ้นหลังบลูมเบิร์กรายงานว่า เควิน แฮสเซตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของทำเนียบขาว กำลังถูกพิจารณาให้เป็นตัวเต็งขึ้นเป็นประธานเฟดคนใหม่ ซึ่งนักลงทุนมองว่าแฮสเซตต์มีแนวโน้มผลักดันทิศทางนโยบายดอกเบี้ยให้ลดลงตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต้องการ
สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับ CNBC เมื่อวันอังคารว่า มีโอกาสสูงมากที่ทรัมป์จะประกาศชื่อประธานเฟดคนใหม่ก่อนเทศกาลคริสต์มาส
-- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เควิน แฮสเซตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติประจำทำเนียบขาว และเป็นที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นตัวเก็งที่จะมาแทนที่ เจอโรม พาวเวล ในตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
แหล่งข่าวระบุว่า หากแฮสเซตต์ดำรงตำแหน่งประธานเฟด ประธานาธิบดีทรัมป์ก็จะมีพันธมิตรใกล้ชิดที่เขารู้จักและไว้วางใจอยู่ในเฟด ซึ่งจะสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามที่ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการ
ด้านแฮสเซตต์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า หากได้รับการเสนอชื่อ เขาพร้อมที่จะรับตำแหน่งดังกล่าว และจะผลักดันการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุกมากขึ้น
-- สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ดูแลกระบวนการสรรหาประธานเฟดคนใหม่แทนเจอโรม พาวเวล กล่าวว่า เขาคาดว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะตัดสินใจเลือกประธานเฟดคนใหม่ได้ในช่วงปลายปีนี้
"ผมคิดว่ามีโอกาสสูงมากที่ท่านประธานาธิบดีจะประกาศก่อนคริสต์มาส แต่ก็เป็นสิทธิ์ของท่านว่าจะประกาศก่อนเทศกาลคริสต์มาสหรือหลังปีใหม่ แต่ผมคิดว่ากระบวนการสรรหากำลังดำเนินไปได้ดีมาก" เบสเซนต์กล่าว และเสริมว่า เขายังเหลือการสัมภาษณ์ผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมอีกหนึ่งคน และยังไม่พร้อมคาดเดาว่าใครจะดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ต่อจากพาวเวล ซึ่งจะครบวาระในเดือนพ.ค. 2569
-- เบสเซนต์ยังกล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน อาจพบกันถึง 4 ครั้งในปีหน้า ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะช่วยให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีมีเสถียรภาพอย่างมาก
เขากล่าวหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสีเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปอย่างชื่นมื่น โดยประธานาธิบดีทรัมป์ได้ตอบรับคำเชิญของประธานาธิบดีสีในการเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งในเดือนเม.ย. ปีหน้า ขณะที่ประธานาธิบดีสีจะเดินทางเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี
"ประธานาธิบดีทรัมป์จะเดินทางเยือนปักกิ่งอย่างเป็นทางการ ขณะที่ประธานาธิบดีสีจะเดินทางเยือนสหรัฐฯ เช่นกัน และเขาจะเข้าร่วมประชุม G20 ที่เมืองดอรัล รัฐฟลอริดา และประธานาธิบดีทรัมป์อาจเข้าร่วมการประชุมเอเปกที่เมืองเซินเจิ้นในเดือนพ.ย. ด้วย"
-- สื่อรายงานว่า ยูเครนได้ยอมรับกรอบข้อตกลงสันติภาพที่สหรัฐฯ เป็นผู้ไกล่เกลี่ย ซึ่งอาจเป็นก้าวสำคัญในการยุติสงครามที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 4 ปี
ยูเครนได้ยอมรับร่างข้อตกลงสันติภาพฉบับแก้ไขแล้วในการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และยูเครนในกรุงอาบูดาบี เมืองหลวงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวานนี้ ขณะที่คณะผู้แทนของรัสเซียก็อยู่ในกรุงอาบูดาบีเช่นกัน แต่ไม่ชัดเจนว่าได้เข้าร่วมเจรจาหรือไม่
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ไม่เปิดเผยชื่อกล่าวต่อสำนักข่าว ABC News ว่า ฝ่ายยูเครนได้เห็นพ้องตามข้อตกลงสันติภาพแล้ว แม้ว่ายังมีรายละเอียดเล็กน้อยที่ต้องเจรจาต่อไป
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวานนี้ (25 พ.ย.) ว่า เขาได้มอบหมายให้ผู้แทนพิเศษ สตีฟ วิตคอฟฟ์ เดินทางไปพบประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ที่กรุงมอสโก เพื่อหวังปิดดีลข้อตกลงสันติภาพเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน
ทรัมป์ระบุผ่านโพสต์บนแพลตฟอร์มทรูธโซเชียลว่า ในความพยายามที่จะสรุปแผนสันติภาพนี้ เขาได้มอบหมายให้ผู้แทนพิเศษ สตีฟ วิตคอฟฟ์ เข้าพบประธานาธิบดีปูตินที่กรุงมอสโก ขณะเดียวกัน แดน ดริสคอล รัฐมนตรีทบวงการทหารบกของสหรัฐฯ จะเข้าพบฝ่ายยูเครน
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค.
เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 4.3% ในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 5.0% ในเดือนส.ค.
หากไม่รวมยอดขายน้ำมันและรถยนต์ ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.ย. ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค.
-- ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ ลดลงเฉลี่ย 13,500 ตำแหน่งต่อสัปดาห์ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนภาวะซบเซาของตลาดแรงงานสหรัฐฯ หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ADP รายงานการจ้างงานเฉลี่ยลดลงเพียง 2,500 ตำแหน่งต่อสัปดาห์ในช่วง 4 สัปดาห์ก่อนหน้า
-- ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ลดลง 6.8 จุด สู่ระดับ 88.7 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 93.2
ดัชนีมุมมองเศรษฐกิจปัจจุบันและดัชนีคาดการณ์ในอนาคตต่างปรับลดลงในเดือนพ.ย. โดยความเชื่อมั่นผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากความกังวลด้านรายได้ครัวเรือนและตลาดแรงงาน
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เป็นการสำรวจมุมมองการเงินส่วนบุคคล การจ้างงาน รวมถึงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจในปัจจุบันและอีก 6 เดือนข้างหน้า
-- ข้อมูลและเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ (26 พ.ย.) มีดังนี้:-
เกาหลีใต้เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนพ.ย.
ออสเตรเลียเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค.
สหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA), ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ย.และต.ค. และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) (เช้าวันที่ 27 พ.ย.)