อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทสลา (Tesla) กล่าวว่า เทสลาจะเพิ่มจำนวนรถแท็กซี่ไร้คนขับ (Robotaxi) ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส เป็นสองเท่าในเดือนธ.ค. หลังจากที่เริ่มเปิดตัวบริการรถแท็กซี่ไร้คนขับในเมืองนี้เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
ปัจจุบัน Robotaxi ของเทสลาให้บริการอยู่ในสองเมือง คือ ออสติน และซานฟรานซิสโก โดยถึงแม้ไม่มีพนักงานขับรถนั่งอยู่หลังพวงมาลัย แต่ยังต้องมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย (Safety Monitor) นั่งอยู่ที่เบาะผู้โดยสารด้านหน้า เพื่อคอยสังเกตการณ์และพร้อมเข้าควบคุมรถเมื่อจำเป็น
ก่อนหน้านี้ในเดือนต.ค. มัสก์เคยคาดการณ์ไว้ว่า ภายในปีนี้ Robotaxi จะสามารถให้บริการในหลายพื้นที่ของเมืองออสตินโดยไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยนั่งประกบ พร้อมตั้งเป้าขยายบริการไปยัง 8-10 เมืองใหญ่ภายในสิ้นปี โดยเทสลาเพิ่งได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจให้บริการเรียกรถรับส่งในรัฐแอริโซนาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ มัสก์ยังได้คาดการณ์เมื่อเดือนก.ค. ด้วยว่า Robotaxi ของเทสลาจะให้บริการครอบคลุมประชากรประมาณครึ่งหนึ่งของสหรัฐฯ ภายในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ หลังจากพลาดเป้าหมายและหลายบริษัทต้องปิดตัวลงในปีที่ผ่าน ๆ มา เนื่องจากต้นทุนสูง กฎระเบียบที่เข้มงวด และการสอบสวนของรัฐบาลกลาง แต่ล่าสุดดูเหมือนอุตสาหกรรม Robotaxi จะเริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง โดยนอกจากเทสลาแล้ว เวย์โม (Waymo) ของอัลฟาเบท (Alphabet) และซูกซ์ (Zoox) ของอะเมซอน (Amazon) ต่างเร่งขยายการให้บริการกันอย่างคึกคักเช่นกัน