ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันในวันอาทิตย์ (30 พ.ย.) ว่า เขาได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับการสนทนาดังกล่าว
-- ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา เตือนว่า ภัยคุกคามทางทหารที่เกิดจากกองทัพสหรัฐอเมริกาในทะเลแคริบเบียน อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพตลาดพลังงานโลก
-- มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า การหารือกับคณะผู้แทนยูเครนที่รัฐฟลอริดาเมื่อวันอาทิตย์ (30 พ.ย.) มีความคืบหน้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนสันติภาพฉบับปรับปรุงเพื่อยุติวิกฤตการณ์ในยูเครน แต่ขณะเดียวกันก็กล่าวด้วยว่า "ยังมีงานที่ต้องทำอีกมาก"
-- มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ออกโรงประณามยูเครนในวันอาทิตย์ (30 พ.ย.) กรณีโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันสองลำและท่าเรือแห่งหนึ่งในทะเลดำ โดยประณามทั้งผู้ที่วางแผนและผู้ที่ลงมือโจมตี
-- คริสตี โนเอม รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ เปิดเผยในวันอาทิตย์ (30 พ.ย.) ว่า ทางการสหรัฐฯ เชื่อว่า ราห์มานุลเลาะห์ ลาคานวาล ผู้อพยพชาวอัฟกานิสถานซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดียิงเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์ชาติสหรัฐฯ (National Guard) เสียชีวิตในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ไม่ได้มีพฤติกรรมหัวรุนแรงมาก่อนหน้านี้ แต่เพิ่งจะมาซึมซับแนวคิดสุดโต่งหลังจากเดินทางเข้ามาพำนักในสหรัฐฯ แล้ว
-- เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ได้ยื่นหนังสือขออภัยโทษอย่างเป็นทางการต่อประธานาธิบดีอิซฮาก เฮอร์โซก โดยให้เหตุผลเรื่องความรับผิดชอบต่อสาธารณะ และต้องการยุติความขัดแย้งทางการเมืองที่รุมเร้าประเทศ
-- ชาวฟิลิปปินส์หลายพันคนได้ออกมาเดินขบวนประท้วงขบวนตามท้องถนนในวันอาทิตย์ (30 พ.ย.) เพื่อเรียกร้องให้ผู้นำระดับสูงของฟิลิปปินส์ลาออก โดยการประท้วงรอบใหม่นี้เกิดขึ้นในเมืองสำคัญต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันที่ลุกลามเป็นวงกว้าง
-- สำนักงานดับเพลิงท้องถิ่นของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่โรงงานแห่งหนึ่งของบริษัทนิปปอน สตีล (Nippon Steel) ในเมืองมุโระรัน จังหวัดฮอกไกโด ทางตอนเหนือสุดของญี่ปุ่น ในช่วงเช้ามืดวันนี้ (1 ธ.ค.) ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้ขนาดใหญ่และเศษซากคอนกรีตกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ
-- เมื่อวานนี้ (30 พ.ย.) กระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ประกาศขยายมาตรการควบคุมการใช้อุปกรณ์สื่อสาร โดยสั่งห้ามนักเรียนชั้นมัธยมใช้ทั้งสมาร์ตโฟนและสมาร์ตวอตช์ตลอดเวลาที่อยู่ในโรงเรียน เริ่มมีผลตั้งแต่เดือนม.ค. 2569 เป็นต้นไป จากเดิมที่เคยห้ามเฉพาะในคาบเรียนเท่านั้น
-- ออสเตรเลียเตรียมห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปีเข้าถึงโซเชียลมีเดียยอดนิยมอย่าง ติ๊กต๊อก (TikTok) และอินสตาแกรม (Instagram) เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค. นี้ นับเป็นชาติประชาธิปไตยแห่งแรกที่ใช้มาตรการเข้มงวดจัดการปัญหานี้