ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มปรับตัวลงในวันนี้ (15 ธ.ค.) ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงกว่า 200 จุดในวันศุกร์ (12 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ในธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI)
-- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจจีนในช่วงเช้าวันนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจภายในประเทศ หลังจากที่ก่อนหน้านี้นักลงทุนผิดหวังต่อการที่รัฐบาลจีนมีท่าทีระมัดระวังในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนมีกำหนดเปิดเผยราคาบ้านเดือนพ.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย., การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนพ.ย. และอัตราว่างงานเดือนพ.ย.
-- นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ (ทังกัน) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 15 ในไตรมาส 4/2568 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี จากระดับ 14 ในไตรมาส 3 โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันและถ่านหิน
ดัชนีทังกันซึ่งเป็นมาตรวัดความเชื่อมั่นของบริษัทต่าง ๆ ในภาคการผลิต เช่น บริษัทในอุตสาหกรรมรถยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สาม และสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวเกียวโดคาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 15
ข้อมูลทังกันที่มีการเปิดเผยล่าสุดนี้ เป็นหนึ่งในข้อมูลที่ BOJ จะใช้ประกอบการพิจารณาในการประชุมนโยบายการเงินครั้งต่อไปในวันที่ 19 ธ.ค.
-- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกการเผยแพร่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนต.ค. ซึ่งเดิมมีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 7 พ.ย. เนื่องจากการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ทำให้ทางกระทรวงฯ ไม่สามารถเก็บข้อมูลย้อนหลังของการสำรวจได้
ส่วนดัชนี CPI ประจำเดือนพ.ย. ซึ่งเดิมมีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 10 ธ.ค. จะถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 18 ธ.ค.
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันที่ 16 ธ.ค. ซึ่งจะเป็นตัวเลขการจ้างงานรวมกันของเดือนต.ค.และพ.ย. โดยจะไม่มีการแยกตัวเลขการจ้างงานของทั้งสองเดือนดังกล่าว
ขณะเดียวกัน กระทรวงฯ จะไม่มีการเปิดเผยตัวเลขอัตราว่างงานประจำเดือนต.ค. เนื่องจากทางกระทรวงฯ ไม่สามารถรวบรวมข้อมูลการว่างงานสำหรับช่วงเวลาดังกล่าว เพราะในขณะนั้นสหรัฐอยู่ในภาวะชัตดาวน์
-- ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กราดยิงที่หาดบอนได (Bondi Beach) ในนครซิดนีย์ของออสเตรเลีย เพิ่มขึ้นเป็น 16 ราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุเป็นสองพ่อลูก โดยผู้เป็นพ่ออายุ 50 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนลูกชายวัย 24 ปีได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
เหตุกราดยิงครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเย็นของวันอาทิตย์ (14 ธ.ค.) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชุมชนชาวยิวได้มารวมตัวกันที่หาดบอนไดเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลฮานุกกะห์ (Hanukkah) ซึ่งเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองช่วงสิ้นปีของชาวยิว คล้ายเทศกาลคริสต์มาสของผู้นับถือศาสนาคริสต์
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เผยมาตรการทางภาษีทำให้เขามีอำนาจในการเจรจาต่อรองกับประเทศอื่น ๆ พร้อมอ้างถึงการขู่เรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อไทยและกัมพูชา หากทั้งสองประเทศไม่ยุติการสู้รบและการเป็นปรปักษ์ต่อกัน
ทรัมป์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เดอะ วอลล์สตรีท เจอร์นัล (WSJ) ที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ (12 ธ.ค.) ว่า "ผมเพิ่งใช้มาตรการทางภาษีเมื่อ 10 นาทีที่แล้ว ก่อนที่คุณจะมาถึง เพื่อจัดการกับสถานการณ์ความขัดแย้งที่ปะทุขึ้นใหม่ระหว่างไทยกับกัมพูชา"
-- ชาวกัมพูชาหลายร้อยคนที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลีย รวมตัวกันประท้วงในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (14 ธ.ค.) เรียกร้องสันติภาพและการยุติการสู้รบต่อกัมพูชา ในขณะที่การปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชายังคงดำเนินไปอย่างอย่างต่อเนื่อง หลังจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้เรียกร้องให้สองฝ่ายหยุดยิงภายในเวลา 22.00 น. เมื่อคืนนี้ และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความระบุว่า ผู้นำทั้งสองประเทศได้ตกลงที่จะหยุดยิงและกลับไปปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพ
วิดีโอที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์แสดงให้เห็นภาพกลุ่มผู้ประท้วงถือธงชาติกัมพูชาและป้ายระบุข้อความเรียกร้องให้กองทัพไทยหยุดทำสงครามและ "หยุดโกหก" นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมการชุมนุมยังได้ตะโกนข้อความว่า "ความยุติธรรมต้องเป็นของกัมพูชา กัมพูชาต้องการสันติภาพ โปรดหยุดทำสงคราม และเคารพข้อตกลงสันติภาพด้วยการทำตามข้อตกลงหยุดยิง"
-- ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงซื้อทองคำต่อเนื่องในเดือนต.ค. แม้ตลาดทองคำมีความผันผวนสูงจากกิจกรรมเก็งกำไร โดยโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า การซื้อทองของธนาคารกลางยังคงไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากราคามากนัก
โกลด์แมน แซคส์ประเมินว่า ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำราว 49 ตันในเดือนต.ค. หรือคิดเป็นค่าเฉลี่ยในรอบ 12 เดือนที่ 66 ตัน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยก่อนปี 2565 ที่ 17 ตัน
การซื้อทองครั้งนี้คาดว่ากาตาร์เป็นผู้นำการซื้อทองสูงสุดราว 20 ตัน ตามด้วยจีนที่ราว 15 ตัน
โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า การสะสมทองของธนาคารกลางยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และคาดว่าการซื้อทองยังจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องควบคู่กับแรงซื้อของนักลงทุนเอกชนภายใต้นโยบายผ่อนคลายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งอาจช่วยผลักดันให้ราคาทองคำปรับขึ้นไปถึง 4,900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ภายในสิ้นปี 2569