คณะกรรมการการสื่อสารและมัลติมีเดียของมาเลเซีย ออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า TikTok, Instagram และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายอื่น ๆ จะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายของมาเลเซียโดยอัตโนมัติ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2569 ซึ่งคำสั่งดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลมาเลเซียในการปกป้องเด็กจากอันตรายทางออนไลน์ และเพิ่มความรับผิดชอบของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
แถลงการณ์ระบุว่า ผู้ให้บริการส่งข้อความทางอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียทั้งหมดที่มีผู้ใช้งานในมาเลเซียตั้งแต่ 8 ล้านคนขึ้นไป จะต้องดำเนินการภายใต้กรอบการออกใบอนุญาตของมาเลเซีย และจะถือว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้ได้จดทะเบียนเป็นผู้รับใบอนุญาตภายใต้กฎหมายการสื่อสารและมัลติมีเดียปีค.ศ. 1998
สำหรับแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ตรงตามเกณฑ์ ได้แก่ Instagram, Facebook และ WhatsApp ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms), TikTok แพลตฟอร์มออนไลน์ของบริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance), YouTube สื่อออนไลน์ของบริษัทอัลฟาเบท (Alphabet) ตลอดจน Telegram
คณะกรรมการการสื่อสารและมัลติมีเดียของมาเลเซียระบุว่า มาตรการดังกล่าวเป็นการรับรองว่าผู้ให้บริการส่งข้อความทางอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียขนาดใหญ่จะปฏิบัติตามกรอบกฎหมายและข้อบังคับของมาเลเซียอย่างเป็นระเบียบ สม่ำเสมอ และมีประสิทธิผล พร้อมระบุว่า มาตรการริเริ่มนี้ยังรับรองว่าแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องแสดงความรับผิดชอบที่ชัดเจนยิ่งขึ้นต่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปกป้องเด็กและครอบครัว
มาตรการดังกล่าวของมาเลเซียเกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลทั่วโลกกำลังออกกฎระเบียบมากขึ้นเพื่อปกป้องเยาวชนจากเนื้อหาที่เป็นอันตรายและการกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ นอกจากนี้ มาเลเซียยังวางแผนที่จะสั่งห้ามไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย โดยเริ่มตั้งแต่ปีหน้า ซึ่งเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับออสเตรเลีย
รายงานระบุว่า ผู้กำหนดนโยบายในอินโดนีเซีย เดนมาร์ก บราซิล และประเทศอื่น ๆ ก็กำลังดำเนินการเพื่อควบคุมบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ด้วยเช่นกัน โดยประเทศเหล่านี้มองว่าเยาวชนถือเป็นกลุ่มประชากรที่สำคัญกลุ่มหนึ่ง