สำนักงานศุลกากรของจีนระบุว่า การส่งออกของจีนในเดือนมิ.ย. ปรับตัวลง 3.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากเพิ่มขึ้น 1% จากเดือนก่อนหน้า ส่วนการนำเข้าก็ปรับตัวลง 0.7% หลังจากขยับลง 0.3% ในเดือนพ.ค.
แม้ว่าภาคการส่งออกของจีนจะหดตัวลงอย่างรวดเร็ว แต่ยอดเกินดุลการค้าของจีนกลับเพิ่มขึ้นแตะที่ 2.71 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าระดับ 2.04 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนพ.ค. โดยการส่งออกสินค้าและบริการของจีนไปยังสหรัฐอเมริกา, ยุโรป, ญี่ปุ่นและฮ่องกง ลดลง 5.4%, 8.3%, 5.1% และ 7% ตามลำดับ เมื่อเทียบรายปี ขณะที่การส่งออกไปยังสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ปรับตัวขึ้น 10.2%
ANZ Bank ชี้ให้เห็นว่า กิจกรรมการส่งออกที่ซบเซานั้นอาจเป็นเพราะหน่วยงานกำกับดูแลของจีนคุมเข้มการทำอาร์บิทราจด้านปริวรรตเงินตรา และการค้าที่อ่อนแอแสดงให้เห็นว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจในภาพรวมยังคงเผชิญกับความเสี่ยงช่วงขาลง
นอกจากนี้ ANZ Bank ระบุว่า เงินหยวนที่ยังคงแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐส่งผลให้ศักยภาพการแข่งขันของภาคการส่งออกจีนอ่อนแอลงอย่างมาก โดยเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องเกิดจากเงินร้อนที่ไหลทะลักเข้ามาในประเทศ ดังนั้น จีนควรลดส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยภายในประเทศและอัตราดอกเบี้ยในตลาดต่างประเทศ เพื่อลดการไหลเข้าของเงินทุนจำนวนมาก สำนักข่าวซินหัวรายงาน