มูลค่าการค้าทั่วโลกในปี 2555 คิดเป็น 143 ล้านล้านเยนโดยประมาณ ซึ่งแทบจะไม่เปลี่ยนแปลง ท่ามกลางวิกฤติหนี้สาธารณะในยูโรโซน และเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงของจีน
การค้าในภูมิภาคอเมริกาเหนือ และเอเชียตะวันออกขยายตัวมากขึ้น ขณะที่หดตัวลงในสหภาพยุโรป และกลุ่มประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ เช่น รัสเซีย และออสเตรเลีย
การส่งออกเคมีภัณฑ์ลดลง 2.2% และผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าร่วงลง 6.7%
ทั้งนี้ จีนเป็นประเทศที่มีสัดส่วนการค้ามากที่สุดของโลกที่ 11.4% ตามด้วยสหรัฐอเมริกา 8.6% เยอรมนี 7.8% และญี่ปุ่น 4.5%
เจ้าหน้าที่ของ JETRO ระบุว่า แนวโน้มการค้าโลกยังมีความเสี่ยงช่วงขาลงในระยะสั้น โดยจีนและกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่จะเผชิญกับภาวะที่ย่ำแย่ ขณะที่ในระยะยาวนั้น มีความเป็นไปได้ที่การค้าอาจดีดตัวขึ้น สำนักข่าวเกียวโดรายงาน