รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเศรษฐกิจประจำเดือนส.ค.ในวันนี้ โดยระบุว่าภาวะเงินฝืดที่ยืดเยื้อของประเทศใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว ขณะที่ยังคงมีการประเมินในเชิงบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
-- เอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ระบุว่า นายจอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดังและผู้บริหารกองทุนโซรอส ฟันด์ เมเนจเมนท์ ได้ลดสัดส่วนการลงทุนในกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ของโลก โดยเทขาย 530,900 หุ้น
-- สหรัฐอเมริกาออกโรงประณามอียิปต์หลังใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมในกรุงไคโร จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 235 คน และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 2,000 คน
-- ธนาคารกลางสเปนเปิดเผยว่า ธนาคารของสเปนเป็นหนี้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ลดลง 33.8% ในเดือนก.ค. เทียบรายปี
รายงานระบุว่า หนี้ภาคธนาคารสเปนปรับตัวลดลงจากหลัก 2.50052 แสนล้านยูโร (3.31242 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนมิ.ย. สู่ระดับ 2.48293 แสนล้านยุโรในเดือนก.ค. ซึ่งปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน
-- นายทาโร่ อาโสะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น แสดงความลังเลที่จะลดอัตราภาษีนิติบุคคล ซึ่งถือเป็นการสกัดกระแสคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นอาจใช้มาตรการดังกล่าวเพื่อบรรเทาผลกระทบเชิงลบที่มีต่อเศรษฐกิจจากการขึ้นภาษีการขาย
-- สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลจีนอาจจะยังไม่มีการปรับเปลี่ยนราคาเชื้อเพลิงในวันศุกร์นี้ โดยคาดว่าจะเป็นครั้งที่ 2 ที่ทางรัฐบาลไม่ปรับเปลี่ยนราคา
-- นายกรัฐมนตรีฌอง-มาร์ค เอโรต์ของฝรั่งเศสขานรับการขยายตัวที่ดีเกินคาดของเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงการใช้กลยุทธ์ทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของรัฐบาล และทำให้เศรษฐกิจฝรั่งเศสกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง
-- หน่วยงานต่างๆของจีนกำลังพยายามส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการด้านข้อมูลข่าวสาร รวมถึงทำให้ภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวเป็นแรงขับเคลื่อนใหม่ในการกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ และผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ
-- จอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดังและผู้บริหารกองทุนโซรอส ฟันด์ เมเนจเมนท์ เข้าซื้อหุ้นในบริษัท แอปเปิล อิงค์ เพิ่มอีกเกือบสองเท่า
โซรอสระบุในเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ว่า ตอนนี้เขาถือหุ้น 66,800 หุ้นในแอปเปิล คิดเป็นมูลค่ากว่า 34 ล้านดอลลาร์
-- สำนักงานสิถิติของสิงคโปร์ระบุว่ายอดค้าปลีกของสิงคโปร์เดือนมิ.ย. หดตัวลง 4% เมื่อเทียบรายปี ตรงข้ามกับเดือนพ.ค.ที่ขยายตัวขึ้น 3.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี
การปรับตัวลดลงนี้มีสาเหตุหลักมาจากยอดขายรถที่ร่วงลงอย่างหนัก โดยลดลง 26.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของอังกฤษในเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 1.1% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากขยับขึ้นเพียง 0.2% ในเดือนมิ.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายสินค้าสำหรับฤดูร้อน อาทิ เสื้อผ้าและอาหาร
หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 3.0% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับแต่ต้นปี 2554
-- ธนาคารกลางอินโดนีเซียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 6.5% ในการประชุมวันนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงมากที่สุดในรอบ 3 ปี
-- ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงในกรุงไคโรและกีซ่า ในประเทศอียิปต์ พุ่งสูงขึ้นแตะ 421 ราย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 3,500 ราย