ธนาคารกลางจีนประกาศอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดเงินผ่านปฏิบัติการอัดฉีดสภาพคล่องระยะสั้น (short-term liquidity operations -SLO) ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะช่วยให้ธนาคารกลางจีนสามารถควบคุมอุปสงค์และอุปทานของสภาพคล่องระยะสั้นได้ อีกทั้งยังสามารถป้องกันความผันผวนรุนแรงในตลาดเงิน
--ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ และคงระดับการประเมินเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งรายงานดังกล่าวระบุว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศอยู่ในระดับปานกลาง ในการประชุมวันนี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า บอร์ดบีโอเจมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ธนาคารกลางจะดำเนินการเพื่อเพิ่มฐานเงินที่อัตรา 60-70 ล้านล้านเยนต่อปี
--เจียง หยาง รองประธานคณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์จีน (CSRC) กล่าวเมื่อวานนี้ว่า จีนจะค่อยๆผ่อนคลายการจำกัดทุนต่างชาติที่เข้ามาในตลาดหลักทรัพย์และตลาดซื้อขายล่วงหน้าของจีน เนื่องจากตลาดต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดสรรเงินทุนอย่างเร่งด่วน โดยผ่านทั้งตลาดจีนและตลาดต่างประเทศ
--นายกรัฐมนตรีฮุน เซน แห่งกัมพูชา เปิดเผยว่า เขาจะไม่ลงจากตำแหน่งและจะไม่จัดการเลือกตั้งใหม่ ขณะที่การชุมนุมประท้วงของฝ่ายค้านเข้าสู่วันที่ 6 แล้ว
--นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้เรียกร้องให้สหรัฐผ่อนข้อจำกัดต่อสินค้าไฮเทคนำเข้าของจีน
นายหลี่กล่าวในการประชุมกับคณะผู้แทนของสหรัฐว่า "เราหวังว่าสหรัฐจะผ่อนคลายข้อจำกัดในการส่งออกสินค้าไฮเทคไปยังจีน และจัดหาสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจจีน เพื่อทำการลงทุนในสหรัฐอเมริกา"
--ผลการสำรวจโดยบริษัทวิจัย GfK เผยให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเยอรมนีในเดือนม.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 7.6 จากระดับ 7.4 ในเดือนธ.ค.
ส่วนดัชนีย่อยมีการปรับตัวขึ้นลงแตกต่างกัน โดยดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจในเดือนธ.ค.ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 23.3 จาก 20.3 ในเดือนพ.ย. ขณะที่ดัชนีแนวโน้มการซื้อในเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 46.1 จาก 45.7 เดือนก่อนหน้า แต่ดัชนีคาดการณ์รายได้ปรับลงสู่ระดับ 39.5 ในเดือนธ.ค. จาก 45.2 ในเดือนพ.ย.
--สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ได้ปรับลดความน่าเชื่อถือระยะยาวของสหภาพยุโรป (อียู) ลงสู่ระดับ AA+ จากระดับ AAA และคงระดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นไว้ที่ A-1+ โดยให้แนวโน้มมีเสถียรภาพ
--นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวชมการประกาศลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยระบุว่าการตัดสินใจดังกล่าวของเฟดนั้นเหมาะสม
--สมาคมการธนาคารสเปน (AEB) รายงานว่า ธนาคารต่างๆที่ดำเนินกิจการในสเปนมีผลกำไรรวม 6.702 พันล้านยูโร (9.158 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตั้งแต่เดือนม.ค.-ก.ย.
AEB ระบุว่า ผลกำไรของธนาคารต่างๆ พุ่งขึ้น 98.3% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อนักลงทุนทั่วโลกสูญเสียความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสเปน ซึ่งเผชิญข่าวลือเกี่ยวกับการรับความช่วยเหลือทางการเงิน