ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อนั้น นายดรากิย้ำว่า อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนในระดับปัจจุบันในอีก 2 ปีข้างหน้า และจากนั้นจะค่อยๆเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเป้าหมายของอีซีบี
นอกจากนี้ นายดรากิได้แนะนำว่า ประเทศยูโรโซนควรจะดำเนินการสร้างความแข็งแกร่งด้านการคลังต่อไป และควรจะสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว ด้วยการปรับลดภาษี, ลดการใช้จ่ายของรัฐบาลให้มากที่สุด และเพิ่มการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน
การแสดงความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในยูโรโซนได้ปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดที่ 0.8% ในเดือนธ.ค.2556 ซึ่งลดลงจากระดับ 0.9% ในเดือนพ.ย.
ส่วนอัตราเงินเฟ้อรายปีในสหภาพยุโรป (อียู) อยู่ที่ 1% ในเดือนธ.ค. ซึ่งทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนพ.ย. โดยในเดือนธ.ค.นั้น พบว่ากรีซมีอัตราเงินเฟ้อต่อปีต่ำที่สุดที่ -1.8% ขณะที่เอสโตเนีย ออสเตรียและอังกฤษ มีอัตราเงินเฟ้อสูงสุดที่ 2% ทั้งนี้ การประชุม World Economic Forum ครั้งที่ 44 ได้จัดให้มีขึ้นในระหว่างวันที่ 22-25 ม.ค. ในหัวข้อ "The Reshaping of the World: Consequences for Society, Politics and Business" โดยมีผู้นำเกือบ 2,500 คนจากเกือบ 100 ประเทศและภูมิภาค ซึ่งรวมถึงผู้นำในภาคธุรกิจและนักวิชาการ