นายโจแสดงความคิดเห็นดังกล่าวในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมรมว.คลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่มประเทศ G-20 ซึ่งจัดขึ้นที่นครซิดนีย์ โดยเขากล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลจีนได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความเสี่ยงที่มีต่อระบบเศรษฐกิจ และเพิ่มมาตรการกำกับดูแลอย่างมีประสิทธิภาพเกี่ยวกับระบบธนาคารเงา โดยเรียนรู้จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ
นอกจากนี้ นายโจวกล่าวว่า ระบบธนาคารเงาของจีนไม่ได้มีขนาดใหญ่ แต่ก็ขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยจีนกำลังตื่นตัวเกี่ยวกับสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของหนี้สินต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)
ทั้งนี้ ธนาคารเงาคือ ธุรกิจการเงินนอกระบบธนาคารพาณิชย์ ซึ่งมีทั้งการปล่อยเงินกู้และระดมเงินออม โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเลี่ยงการกำกับดูแลจากทางการจีนทั้งในด้านการปล่อยสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ย ที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์จีนจะดำเนินธุรกรรมธนาคารเงาด้วยการออกเงินกู้แก่ลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากระบบธนาคารตามปกติ รวมทั้งนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์โดยทั่วไป นอกจากนี้ ธนาคารพาณิชย์ยังอาจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจธนาคารเงาในฐานะคนกลางในการดำเนินธุรกรรมการเงินนอกระบบ ซึ่งธนาคารจะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ
ระบบธนาคารเงาของจีนได้กลายเป็นต้นตอที่บั่นทอนเสถียรภาพในระบบการเงินของจีน และกำลังส่งผลให้เกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อย่างชัดเจน