“แอสทราเซเนกา" ปฏิเสธข้อเสนอซื้อขั้นสุดท้ายจาก “ไฟเซอร์" เหตุมูลค่าต่ำเกินไป

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 19, 2014 21:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัทแอสทราเซเนกา ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ ได้ปฏิเสธข้อเสนอกิจการในขั้นสุดท้ายจากบริษัทไฟเซอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเวชภัณฑ์ชั้นนำของสหรัฐ เป็นครั้งที่ 3

ไฟเซอร์ได้เสนอซื้อกิจการครั้งใหม่ที่ 55 ปอนด์ (92 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อหุ้น ซึ่งเพิ่มขึ้นจากข้อเสนอก่อนหน้านี้ โดยมูลค่าการเสนอซื้อแอสทราเซเนกาในขั้นสุดท้ายอยู่ที่ราว 6.9 หมื่นล้านปอนด์ (1.16 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)

แต่แอสทราเซเนการะบุว่าข้อเสนอดังกล่าวมีมูลค่าต่ำมูลค่าของบริษัท ขณะที่ประธานบริษัทแอสทราเซเนกากล่าวว่า “เราได้ปฏิเสธข้อเสนอขั้นสุดท้ายของไฟเซอร์ เนื่องจากข้อเสนอดังกล่าวมีมูลค่าไม่เพียงพอ และจะก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างมากสำหรับผู้ถือหุ้น ขณะเดียวกันก็จะส่งผลกระทบรุนแรงสำหรับบริษัท พนักงานของเราและภาคธุรกิจเวชภัณฑ์ในอังกฤษ สวีเดนและสหรัฐ"

แอสทราเซเนการะบุว่า ข้อเสนอซื้อกิจการจะต้องมากกว่า 58.85 ปอนด์ต่อหุ้น เพื่อที่บอร์ดของบริษัทจะสามารถนำเสนอแก่กลุ่มผู้ถือหุ้นได้

ข้อเสนอซื้อกิจการดังกล่าวได้จุดปะทุกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มนักการเมืองของอังกฤษ เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อการวิจัยด้านเวชภัณฑ์ของแอสทราเซเนกา และทำให้มีการปลดพนักงาน

รายงานระบุว่า ส่วนใหญ่แล้ว ไฟเซอร์จะยื่นข้อเสนอควบรวมกิจการ เนื่องจากเหตุผลในด้านภาษี หากไฟเซอร์ซื้อกิจการแอสทราเซเนกา ไฟเซอร์จะจ่ายภาษีอัตราภาษีนิติบุคคลในอังกฤษที่อัตรา 20% แทนที่จะเป็นอัตรา 35% ที่บังคับใช้อยู่ในสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ แอสทราเซเนกานับเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจเวชภัณฑ์ของอังกฤษ ซึ่งมีมูลค่าตลาด 5.15 หมื่นล้านปอนด์ โดยมีการจ้างงาน 30,000 ตำแหน่ง ซึ่งรวมถึงพนักงานโดยตรง 7,000 ตำแหน่ง ขณะที่การส่งออกของแอสทราเซเนกามีมูลค่าเกือบ 7 พันล้านปอนด์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 2.33% ของการส่งออกสินค้าทั้งหมดของอังกฤษ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ