ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.69 แข็งค่าสุดในภูมิภาค รับแรงซื้อพันธบัตร คาดกรอบพรุ่งนี้ 31.60-31.80

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 16, 2025 17:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 31.69 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้านี้ที่ระดับ 31.82 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 31.66 - 31.83 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีนักลงทุนต่าง ชาติซื้อพันธบัตร 1.9 พันล้านบาท

"วันนี้บาทกลับมาเคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่า โดยปิดตลาดวันนี้แข็งค่าสุดในภูมิภาค หลังจากเมื่อวานมีข่าวจะเก็บภาษีจากการ ค้าทองคำ ซึ่งต้องรอดูการพิจาณาของทางการ" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 31.60-31.80 บาท/ดอลลาร์

คืนนี้ตลาดรอดูการประกาศตัวเลขค้าปลีกเดือน ส.ค.ของสหรัฐฯ และรอดูโฉมหน้าของคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล "อนุทิน 1"

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 146.89 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 147.43 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1814 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1760 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,308.19 จุด เพิ่มขึ้น 8.41 จุด (+0.65%) มูลค่าซื้อขาย 47,455.08 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,293.43 ล้านบาท
  • นายกรัฐมนตรี คาดนำรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ภายในเย็นวันนี้ พร้อมยืนยัน รายชื่อรัฐมนตรีทุก
คนผ่านการตรวจสอบจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ
  • นายกรัฐมนตรี เตรียมเดินสายเข้าพบประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในวันที่ 18 ก.
ย. เพื่อหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อรับฟัง
ข้อเสนอแนะต่าง ๆ จากภาคเอกชนก่อนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
  • ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันพบว่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นแล้ว 7% ซึ่งยอมรับว่า
เป็นการแข็งค่าขึ้นโดยไม่สอดคล้องกับพื้นฐานเศรษฐกิจเท่าที่ควร ส่วนแนวทางเก็บภาษีซื้อขายทอง-ใช้ดอลลาร์ยังแค่หารือ การตัดสินใจแนว
ทางใดนั้นต้องหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ
  • ผู้ค้าทองเสนอทางออกลดผลกระทบบาทแข็งแทนเก็บภาษี โดยแนะให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพิ่มประสิทธิภาพ
ระบบเคลียร์ริ่ง
  • สถานการณ์การท่องเที่ยวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (8-14 ก.ย. ) นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) เดิน
ทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น 17.64% จากสัปดาห์ก่อนหน้า จากการมีวันหยุดต่อเนื่องในหลายประเทศ อาทิ การ
มีวันหยุด Malaysia Day ที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดมาเลเซียเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นถึง 67.40% และขยับขึ้นมาเป็นกลุ่มตลาดที่เดิน
ทางเข้ามาท่องเที่ยวสะสมเป็นอันดับที่ 1 และการมีวันหยุด Respect for the Aged Day ในประเทศญี่ปุ่นที่กระตุ้นการเดินทางท่อง
เที่ยว โดยนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นกว่า 30%
  • บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% ในการ
ประชุมสองวันที่สิ้นสุดในวันศุกร์นี้ (19 ก.ย.) และตลาดจะจับตาการแถลงข่าวหลังการประชุมของคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ เพื่อหา
สัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป หลังจากที่ BOJ ยุติการขึ้นดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนม.ค.
  • ศาลอุทธรณ์กลางสหรัฐฯ มีคำวินิจฉัยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่สามารถปลด ลิซา คุก ออกจากตำแหน่งสมาชิก
คณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้ ก่อนที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) จะลงมติว่าจะปรับลดอัตรา
ดอกเบี้ยหรือไม่ ส่งผลให้คุกสามารถเข้าร่วมการประชุม FOMC ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน
  • นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธ (17 ก.ย.) โดยมีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า

เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ