ทั้งนี้ บีโอเจทำการสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น (ทังกัน) เพื่อคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงราคาผู้บริโภคในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งไม่ได้พิจาณาผลกระทบโดยตรงจากการปรับขึ้นภาษีการขายเมื่อวันที่ 1 เม.ย. โดยในเดือนมี.ค. ตัวเลขเปรียบเทียบอยู่ที่ระดับ +1.5%
ในการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายนั้น บีโอเจพยายามบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ตามการวัดจากดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมอาหารสด ขณะที่ซื้อสินทรัพย์ทางการเงินจำนวนมากจากธนาคารต่างๆ และเพิ่มปริมาณเงินเข้าสู่เศรษฐกิจ
ในเดือนพ.ค. ดัชนี CPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 1.4% จากปีก่อนหน้านี้ โดยไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษี เมื่อเทียบกับระดับ 1.5% ในเดือนเม.ย.
นักวิเคราะห์หลายรายคาดว่า อัตราการขยายตัวของ CPI จะชะลอตัวลงในเวลาต่อไปในปีนี้ และอาจสร้างความกดดันให้บีโอเจใช้มาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ญี่ปุ่นพยายามแก้ไขปัญหาเงินฝืดที่ยืดเยื้อมายาวนาน โดยนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจกล่าวว่า จำเป็นต้องจัดการเกี่ยวกับคาดการณ์เงินเฟ้อโดยตรง ซึ่งขึ้นอยู่กับภาคเอกชน และสร้างความมุ่งมั่นว่านโยบายทางการเงินในอนาคตจะมีความเหมาะสมเพียงพอ