นายหว่อง เถา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของยูบีเอสประจำประเทศจีน คาดว่าข้อมูลเศรษฐกิจในเดือนม.ค.และก.พ.ของจีนอาจจะบิดเบือนไป อันเนื่องมาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับต่ำตามฤดูกาลและช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงในเทศกาลตรุษจีนซึ่งจะตรงกับวันที่ 19 ก.พ.ในปีนี้ ดังนั้น จึงมีอุปสรรคในการประเมินแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจให้มีความเชื่อถือ
ยูบีเอสคาดว่า ข้อมูลเศรษฐกิจในเดือนมี.ค.จะออกมาแข็งแกร่งและสามารถกำหนดทิศทางนโยบายเศรษฐกิจมหภาคของจีนในช่วง 2-3 ไตรมาสข้างหน้าได้ พร้อมกับคาดการณ์ว่าจีนจะจัดสรรสภาพคล่องเพิ่มขึ้นในปีนี้ ซึ่งรวมถึงการปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ประกอบกับการอ่อนค่าลงเล็กน้อยของเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐภายในช่วงสิ้นปี
นอกจากนี้ ยูบีเอสคาดการณ์ว่า ยอดเกินดุลการค้าต่างประเทศของจีนในเดือนม.ค.จะอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5.9 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยคาดว่าการส่งออกจะขยายตัวแข็งแกร่งที่ 9% เทียบรายปี และคาดว่าการนำเข้าจะลดลง 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค.นั้น ยูบีเอสประเมินว่าจะปรับตัวลง เนื่องจากการขยายตัวของราคาอาหารจะชะลอลงมาอยู่ที่ราว 0.3% เทียบกับอัตราการเติบโตที่ 2.5% ในเดือนม.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อรายปีปรับตัวลงเกือบ 2.2% สำนักข่าวซินหัวรายงาน