ธนาคารกลางของยูเครนเปิดเผยว่า สัดส่วนหนี้สินต่างประเทศต่อตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของยูเครน เพิ่มขึ้นเป็น 110.5% ในไตรมาสแรกปีนี้ จากระดับ 95.1% ในไตรมาส 4 ปี 2557
ธนาคารกลางระบุในแถลงการณ์ว่า ณ วันที่ 1 เม.ย. หนี้สินต่างประเทศ ซึ่งเป็นยอดเงินกู้จากต่างประเทศของภาครัฐบาลและเอกชนแตะที่ 1.26 แสนล้านดอลลาร์
แถลงการณ์ระบุว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของสัดส่วนหนี้สินในไตรมาสที่ 1 มาจากการที่รัฐบาลยูเครนได้รับอนุมัติเงินกู้งวดใหม่เป็นสกุลเงินต่างประเทศ ในขณะที่สกุลเงินของยูเครนอ่อนตัวลง
ในระหว่างเดือนม.ค.-มี.ค. 2558 ยูเครนได้รับเงินกู้เป็นจำนวน 5.4 พันล้านดอลลาร์จากเจ้าหนี้ต่างประเทศ โดย 4.9 พันล้านดอลลาร์ในจำนวนดังกล่าวเป็นยอดเงินกู้จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
ทั้งนี้ จีดีพีของยูเครนหดตัวลง 17.6% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสแรกของปี 2558 ในขณะที่ยูเครนกำลังเจรจากับเจ้าหนี้เอกชนจากต่างประเทศในเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะจำนวน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน