ยอดขาดดุลทางการค้าที่ลดลงมีผลมาจากยอดส่งออกที่ขยายตัวขึ้น 1.4% สู่ระดับ 6.437 หมื่นล้านยูโร (7.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเทียบกับยอดนำเข้าที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่า 0.2% โดยมียอดรวมอยู่ที่ 6.524 หมื่นล้านยูโร (7.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)
การค้าขายกับประเทศในสหภาพยุโรป (EU) มียอดขาดดุลอยู่ที่ 1.34 พันล้านยูโร (1.5 พันล้านดอลลาร์) ถึงแม้ว่ายอดส่งออกจะปรับตัวสูงขึ้น 1.2% แตะที่ 4.451 หมื่นล้านยูโร (4.98 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) และยอดนำเข้าลดลง 0.9% แตะที่ 4.585 หมื่นล้านยูโร (5.13 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ก็ตาม
สนง.สถิติระบุว่า ยอดเกินดุลการค้าสำหรับประเทศนอกยุโรปแตะที่ 470 ล้านยูโร (526.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่ายอดปี 2557 ซึ่งอยู่ที่ 675 ล้านยูโร (755.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ยอดส่งออกโดยรวมเพิ่มขึ้น 1.8% หรือ 1.986 หมื่นล้านยูโร (2.22 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในขณะที่ยอดนำเข้าสูงขึ้น 3% แตะที่ 1.939 หมื่นล้านยูโร (2.16 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ทั้งนี้ ประเทศที่ทำการค้ากับออสเตรเลียมากที่สุดกลับมาเป็นเยอรมนีอีกครั้งหนึ่ง ในขณะที่ประเทศนอกยุโรปอย่างจีน คือประเทศที่ส่งสินค้าเข้ามาในออสเตรเลียมากที่สุด ซึ่งยอดนำเข้าปรับตัวขึ้น 11.5% ขณะเดียวกัน สหรัฐเป็นประเทศที่ออสเตรเลียส่งสินค้าออกไปมากที่สุด โดยยอดส่งออกขยายตัว 19.6% ในเดือนมิ.ย.