นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น วางแผนที่จะนำเสนอวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการลงทุนของญี่ปุ่นในสหรัฐช่วงที่เข้าพบประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกาในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นการหารือระดับทวิภาคีครั้งแรกของผู้นำทั้งสองประเทศ ภายหลังจากการวิพากษ์วิจารณ์ด้านการค้าของผู้นำสหรัฐ
ทั้งนี้ นับตั้งแต่นายทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมานั้น เขาได้วิพากษ์วิจารณ์ญี่ปุ่นหลายต่อหลายครั้ง โดยกล่าวว่า ญี่ปุ่นตั้งกำแพงภาษีสูงเกินไป ทำให้สหรัฐไม่สามารถขายรถยนต์ในญี่ปุ่นได้ อีกทั้งยังวิพากษ์วิจารณ์การดำเนินนโยบายทางการเงินของญี่ปุ่นว่าเป็นวิธีการอันไร้ซึ่งความเป็นธรรมในการลดค่าเงินเยน และสร้างความได้เปรียบให้กับผู้ส่งออกสัญชาติญี่ปุ่น ส่งผลให้สหรัฐตกอยู่ในฐานะขาดดุลการค้าต่อญี่ปุ่นมาโดยตลอด ซึ่งนายอาเบะจะแก้ไขความเข้าใจผิดเกี่ยวกับแนวปฏิบัติทางการค้าของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น รวมถึงอธิบายนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของญี่ปุ่นให้กับนายทรัมป์ในวันศุกร์นี้ด้วยเช่นกัน
สำหรับแผนการ 5 ข้อของอาเบะภายใต้ชื่อ “โครงการการเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงานระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่น" นั้น มีใจความว่า ทั้ง 2 ประเทศควรร่วมมือกันสร้างงานในสหรัฐ 700,000 ตำแหน่ง รวมถึงการสร้างตลาดใหม่ ๆ มูลค่า 4.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงทศวรรษหน้า โดยโครงการดังกล่าวมิได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายหรือการลงทุนใด ๆ เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว