นายโจส์ ไวนัลส์ ประธานธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด กล่าวว่า ความเสี่ยงทางการเงินของจีนเป็นเรื่องที่สามารถบริหารจัดการได้ แต่ต้องจัดการด้วยวิธีการที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง
นายโจส์ ระบุว่า "หน่วยงานของจีนให้ความสำคัญกับการจัดการเรื่องความเสี่ยงทางการเงิน ซึ่งวิกฤติทางการเงินมีโอกาสเกิดขึ้นได้หากหน่วยงานเหล่านั้นเพิกเฉยและไม่ดำเนินมาตรการใดๆ ในทางกลับกันหน่วยงานเหล่านี้ต่างตระหนักถึงความท้าทายดังกล่าว ซึ่งสิ่งสำคัญคือการรับมือด้วยมาตรการที่ถูกต้องและรวดเร็ว"
นายไวนัลส์ เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของธนาคารผู้ให้ความสำคัญกับปัญหาความมั่นคงทางการเงินของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า ความเสี่ยงทางการเงินของจีนเกิดขึ้นจากช่วงระยะเวลาหลายปีที่หนี้ในประเทศปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งนำไปสู่ภาวะการเป็นหนี้สาธารณะในระดับสูง ซึ่งหมายความว่าการจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวกับการลงทุนนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม ประธานธนาคารระบุว่า ตนยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจจีนในระยะยาว และคิดว่า รัฐบาลจีนนั้นชาญฉลาดที่ตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ที่ระดับ 6.5% ในปี 2560
นายไวนัลส์ กล่าวว่า "สิ่งสำคัญที่สุดคือ การสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยการผสมผสานนโยบายที่ถูกต้อง การปฏิรูปโครงสร้างที่เหมาะสม และพยายามชะลอการเติบโตของหนี้ในประเทศ โดยเฉพาะหนี้จากภาคธนาคารเงา บริษัทต่างๆในจีนต่างเข้าใจถึงความสำคัญของการรักษาระดับและสมดุลการเติบโตในแนวทางที่ยั่งยืนเป็นอย่างดี" เขากล่าวเสริมว่า จีนกำลังเดินหน้าปรับสมดุลของเศรษฐกิจจากอุปสงค์นอกประเทศสู่อุปสงค์ในประเทศ จากเศรษฐกิจที่เน้นการลงทุนสู่เศรษฐกิจเน้นการบริโภค และจากการผลิตสู่การบริการที่มากขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน