นายอรุณ เชฏลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินเดีย เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอินเดียในปี 2560 ว่าจะเติบโตอยู่ที่ 7.2% พร้อมกับย้ำว่า อินเดียมีความต้องการเงินทุนจำนวนมหาศาลเพื่อนำไปพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานในประเทศ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
นายเชฏลี กล่าวแถลงในระหว่างพิธีเปิดการประชุมประจำปีของธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่ (New Development Bank หรือ NDB) ครั้งที่ 2 ที่กรุงนิวเดลีว่า "จากการประมาณการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมานั้น เศรษฐกิจอินเดียน่าจะขยายตัวอยู่ที่ 6.6% ในปี 2559 และคาดการณ์ด้วยว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวที่ 7.2% ในปี 2560 และ 7.7% ในปี 2561"
ทั้งนี้ ธนาคาร NDB เป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จัดตั้งขึ้นโดยกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ขนาดใหญ่ หรือ BRICS อันประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้
ขุนคลังอินเดียกล่าวว่า "เป็นเวลากว่าหนึ่งทศวรรษหลังจากที่รัฐมนตรีต่างประเทศของบราซิล จีน รัสเซีย และอินเดียได้ประชุมร่วมกันที่นิวยอร์กในเดือนก.ย. 2549 เพื่อวางรากฐานให้กับกลุ่ม BRICS และนับตั้งแต่นั้นมา BRICS ก็ได้เติบโตขึ้นและมีพัฒนาการในหลายมิติ รวมไปถึงการถือกำเนิดขึ้นของธนาคาร NDB ด้วย"
นายเชฏลีกล่าวเสริมด้วยว่า "อินเดียมีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนประมาณ 6.46 แสนล้านดอลลาร์ตลอดช่วง 5 ปีข้างหน้า เพื่อนำไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ โดย 70% ของงบประมาณดังกล่าวจะนำไปใช้ในโครงการด้านพลังงาน ก่อสร้างถนน และโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเมือง"