นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และกลุ่มผู้นำองค์การเศรษฐกิจทั่วโลก เรียกร้องให้มีการสานความร่วมมือเรื่องนโยบายการค้า เพื่อป้องกันนโยบายกีดกันทางการค้าที่ปรากฏให้เห็นมากขึ้นทุกวันนี้
นายกรัฐมนตรีเยอรมนีจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอด G20 ณ เมืองฮัมบวร์ค ประเทศเยอรมนี ในเดือนก.ค.นี้ ซึ่งคาดว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ จะร่วมการประชุมดังกล่าวด้วย โดยปธน.ทรัมป์ได้หาเสียงด้วยแนวคิด "อเมริกาต้องมาก่อน" จนก่อให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับนโยบายกีดกันทางการค้าในเวทีโลก
นางแมร์เคิล กล่าวในแถลงการณ์ร่วมกับผู้นำกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) องค์การการค้าโลก (WTO) ธนาคารโลก (World Bank) องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) และองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ว่า "อันตรายจากการแพร่หลายของนโยบายกีดกันการค้านั้น เป็นเหตุกระตุ้นให้เราออกมาสนับสนุนระบบการค้าระหว่างประเทศมากขึ้น"
แถลงการณ์ระบุว่า "ความร่วมมือและประสานงานด้านนโยบายการค้า ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน"
ทั้งนี้ แถลงการณ์ร่วมกันของรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่ม G20 ในการประชุมที่เมืองบาเดน-บาเดน เยอรมนี วันที่ 17-18 มี.ค.ที่ผ่านมา ระบุถึงจุดยืนร่วมกันด้านการค้าและอัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม มีการถอดประเด็นต่อต้านการกีดกันทางการค้าออกจากแถลงการณ์ร่างสุดท้ายของการประชุมครั้งนี้ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกนับตั้งแต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ
กลุ่ม G20 ได้ถอดคำว่า "การต่อต้านการกีดกันทางการค้าทุกรูปแบบ" ออกจากแถลงการณ์ฉบับร่างสุดท้าย เนื่องจากได้รับการคัดค้านจากตัวแทนของสหรัฐ
นางแมร์เคิล ยังระบุในแถลงการณ์นี้ด้วยว่า วาระของเยอรมนีในการประชุม G20 ปีนี้ยังมีเป้าหมายที่การยกระดับความร่วมมือทั่วโลกในการจัดการกับภัยโลกร้อน
ก่อนหน้านี้ WTO, IMF และ World Bank ได้มีการเผยแพร่รายงานในหัวข้อ "ใช้การค้าเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตสำหรับทุกฝ่าย" ซึ่งมีเนื้อหาว่า บทบาทของการค้าในการกระตุ้นเศรษฐกิจโลกนั้น ถูกบั่นทอนลงด้วยการชะลอตัวของการปฏิรูปการค้าและการแผ่ขยายของลัทธิคุ้มครองการค้า