World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 31 ตุลาคม 2560

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 31, 2017 09:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า การปรับลดอัตราภาษีจะเกิดขึ้นในไม่ช้า หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรให้การอนุมัติงบประมาณปี 2561 ที่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาเมื่อไม่นานมานี้

-- สถานการณ์ด้านการเมืองในสเปนเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งช่วยหนุนตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลกลางของสเปนได้เข้ายึดอำนาจการปกครองในแคว้นกาตาลุญญา ขณะที่นายโฮเซ่ มานูเอล มาซา อธิบดีอัยการสเปน ได้ตั้งข้อหากบฏ และปลุกปั่นสร้างความวุ่นวาย ต่อนายคาร์เลส ปุกเดมองต์ อดีตผู้นำแคว้นกาตาลุญญา รวมถึงรัฐบาลของนายปุกเดมองต์ หลังจากที่ได้ประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน

ตลาดการเงินจับตาการเลือกตั้งในแคว้นกาตาลุญญา ซึ่งรัฐบาลสเปนกำหนดให้มีขึ้นในวันที่ 21 ธ.ค. หลังจากที่นายกรัฐมนตรีมาริอาโน ราฮอย ประกาศยุบรัฐสภาคาตาลัน และปลดนายคาร์เลส ปุกเดมองต์ ผู้นำแคว้นกาตาลุญญาออกจากตำแหน่ง ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เตรียมแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ โดยผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า คณะกรรมการ BOJ จะมีมติคงนโยบายการเงินเชิงรุก ด้วยการเดินหน้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล โดยมีเป้าหมายที่จะรักษาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อระยะยาว ให้เคลื่อนไหวใกล้ระดับ 0%

ขณะเดียวกัน คาดว่าคณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางญี่ปุ่น จะปรับลดการคาดการณ์เงินเฟ้อของปีงบประมาณปัจจุบัน ในขณะที่อัตราการเติบโตของค่าจ้างยังคงอยู่ในภาวะที่จำกัด และการใช้จ่ายภาคครัวเรือนยังคงอยู่ในภาวะที่ซบเซา ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของราคา

-- ตลาดยังคงจับตาผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ ขณะที่นิวยอร์กไทม์รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะเลือกนายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการเฟด เป็นประธานเฟดคนใหม่ ต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า สอดคล้องกับที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานไปก่อนหน้านี้

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าวว่า การประกาศแต่งตั้งประธานเฟดคนใหม่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 2 พ.ย.

-- นายโรเบิร์ต มุลเลอร์ ที่ปรึกษาพิเศษผู้รับผิดชอบคดีเกี่ยวกับรัสเซีย ตั้งข้อหาทีมงาน 3 คนของปธน.ทรัมป์ กรณีการติดต่อกับรัสเซียในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปีที่แล้ว ประกอบด้วยนายพอล มานาฟอร์ต อดีตหัวหน้าทีมงานหาเสียงของทรัมป์ และนายริค เกตส์ ซึ่งเป็นแนวร่วมของนายมานาฟอร์ต โดยทั้งคู่ถูกตั้งข้อหาว่าฟอกเงินและสมคบคิด แต่ได้ปฏิเสธที่จะยอมรับผิด ในขณะที่นายจอร์จ ปาปาโดโปลอส ที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศของปธน.ทรัมป์ สารภาพผิดว่า ตนโกหกสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) กรณีติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัสเซียเมื่อวันที่ 5 ต.ค. และยอมให้ความร่วมมือในการสืบสวนคดีนี้ต่อไป

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตประจำเดือนต.ค. ขยายตัวที่ระดับ 51.6 ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 52.4 ในเดือนก.ย. และจากระดับ 51.7 ในเดือนส.ค.

ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการประจำเดือนต.ค. ขยายตัวที่ระดับ 54.3 ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนก.ย.ที่ระดับ 55.4

อย่างไรก็ตาม ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัว ขณะที่ดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัว

-- นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมครั้งนี้

สำหรับการประชุมครั้งหลังสุดซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการ FOMC มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% พร้อมประกาศว่า จะเริ่มปรับลดงบดุลที่ประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน หรือ MBS ในเดือนต.ค. จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์

-- นักลงทุนจับตาธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ซึ่งมีกำหนดประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดีที่ 2 พ.ย.นี้ ขณะที่ผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ระบุว่า BoE มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.5% จากปัจจุบันที่ระดับ 0.25% นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ที่ประชุม BoE จะปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ

-- นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐและประเทศยุโรป โดยในวันนี้ สหภาพยุโรป (อียู) จะรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 และอัตราว่างงานเดือก.ย. ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยราคาบ้านเดือนส.ค.โดยเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จาก Conference Board


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ