World Today: สรุปข่าวประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 15, 2017 09:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวว่า "ทุกประเทศที่ทำการค้ากับสหรัฐรู้ดีว่ากฎตางๆได้เปลี่ยนไปแล้ว" ก่อนที่จะเดินทางออกจากฟิลิปปินส์วานนี้ อันเป็นการปิดทริปการเดินทางเยือนเอเชียทั้งสิ้น 11 วันของผู้นำสหรัฐ

ในระหว่างการเดินทางเยือนเวียดนาม ทรัมป์ได้ชักชวนนายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ให้ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ทางการทหารจากสหรัฐให้มากขึ้น เนื่องจากทรัมป์มองว่า การที่สหรัฐสามารถค้าอาวุธให้กับนานาชาติได้จะส่งผลดีต่อคะแนนความนิยมของเขาในการเลือกตั้งสมัยหน้า

-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จัดการประชุมเสวนาในวันนี้ที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี เมื่อวานนี้ ภายใต้หัวข้อ "Communication challenges for policy effectiveness, accountability and reputation" ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมการเสวนา ได้แก่ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB นายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)

นางเยลเลนกล่าวว่า การที่เฟดทำการชี้นำทิศทางนโยบายในอนาคตนั้น เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ แต่ก็ควรดำเนินการอย่างมีเงื่อนไข โดยขึ้นอยู่กับการปรับตัวของเศรษฐกิจในขณะนั้น

ด้านนายคาร์นีย์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางจะต้องสื่อสารด้านนโยบายไปให้ถึงสาธารณชนในวงกว้าง มากกว่าที่จะไปถึงแต่เพียงนักลงทุนในตลาดการเงิน

-- นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าในการผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของคณะทำงานประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยคาดว่าการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวอาจเป็นไปอย่างล่าช้า หลังจากสมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% สู่ระดับ 20% ออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562

รายงานล่าสุดระบุว่า นายมิทช์ แมคคอนเนลล์ แกนนำพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาสหรัฐ เปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเตรียมเสนอการเพิกถอนข้อบังคับสำคัญในกฎหมายประกันสุขภาพของรัฐบาลชุดก่อน หรือ "โอบามาแคร์" ตามแผนปฏิรูประบบภาษีฉบับใหม่ของวุฒิสภา ซึ่งทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจเพิ่มความเสี่ยงทางการเมือง อีกทั้งเพิ่มความไม่แน่นอนในการผลักดันมาตรการปรับลดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สมาชิกรีพับลิกันในสภาคองเกรสเคยคว้าน้ำเหลวในการโหวตคว่ำกฎหมายโอบามาแคร์และแทนที่ด้วยกฎหมายเฮลธ์แคร์ฉบับใหม่มาแล้ว

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า อัตราว่างงานเดือนต.ค.ของเกาหลีใต้ ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน

รายงานระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานของเกาหลีใต้ ณ สิ้นสุดเดือนต.ค.ปีนี้ อยู่ที่ระดับ 26.85 ล้านตำแหน่ง เพิ่มขึ้น 279,000 ตำแหน่งจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้มีการจ้างงาน 4.47 ล้านคนตำแหน่งในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 28,000 ตำแหน่งจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

-- หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานว่า นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส กำลังพิจารณาสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเฟดเดือนหน้า

"อดีตที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า ถ้าเศรษฐกิจมีการขยายตัวอย่างมาก เฟดก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินการเพื่อให้ตามทันการปรับตัวของเศรษฐกิจ" นายแคปแลนกล่าว

นอกจากนี้ นายแคปแลนยังกล่าวอีกด้วยว่า เขากำลังพิจารณามาตรการที่เหมาะสม สำหรับการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า

-- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 3 ขยายตัว 1.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 7 โดยได้ปัจจัยหนุนจากการส่งออกที่แข็งแกร่ง

ทั้งนี้ หากเทียบเป็นรายไตรมาส GDP ไตรมาส 3 ของญี่ปุ่นขยายตัว 0.3%

-- นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐหลายรายการในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งได้แก่ ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนพ.ย.จากเฟดนิวยอร์ก, ยอดค้าปลีกเดือนต.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ย. และ สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เพื่อประเมินทิศทางการลงทุนต่อไป

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เตรียมเปิดเผยตัวเลขอัตราว่างงานเดือนก.ย. ในวันนี้ เวลา 17.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า จำนวนคนว่างงานในอังกฤษลดลง 52,000 คนในช่วงเดือนมิ.ย.-ส.ค. มาอยู่ที่ 1.4 ล้านคน ขณะที่อัตราว่างงานยังคงทรงตัวที่ 4.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2518


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ