รายงานฉบับใหม่ล่าสุดจากคอร์โลจิก (CoreLogic) ผู้ให้บริการข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของสหรัฐ คาดการณ์ว่า ราคาบ้านในสหรัฐอาจขยายตัว 4.2% เทียบรายปี จากเดือนพ.ย. 2560 ถึงเดือนพ.ย. 2561
ดัชนีราคาบ้านของคอร์โลจิก ระบุว่า ราคาบ้านในสหรัฐอเมริกาปรับตัวขึ้นทั้งเทียบรายปีและเทียบรายเดือน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาบ้านทั่วประเทศปรับตัวขึ้น 7% เทียบรายปีจากเดือนพ.ย. 2559 ถึงพ.ย. 2560 ขณะที่ราคาบ้านเมื่อเทียบรายเดือนนั้นปรับตัวขึ้น 1% ในเดือนพ.ย. 2560 จากเดือนต.ค. 2560
รายงานประเมินภาวะตลาดของคอร์โลจิก ซึ่งเป็นบทวิเคราะห์มูลค่าที่อยู่อาศัยในเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุด 100 เขตของสหรัฐในแง่ของจำนวนบ้าน ระบุว่า พื้นที่เขตเมือง 37% มีจำนวนบ้านที่มีการตีราคาสูงเกินไป ณ เดือนพ.ย. 2560
เมื่อดูจากตลาด 50 อันดับแรกในแง่ของจำนวนบ้านแล้ว มี 50% ที่ตีราคาสูงเกินไป 14% ตีราคาต่ำเกินไป ส่วนอีก 36% มีราคาที่สมควรแล้ว
เมืองลาสเวกัสเป็นเขตเมืองที่มีการตีราคาที่อยู่อาศัยสูงเกินไปมากที่สุด โดยมีราคาบ้านเพิ่มขึ้นถึง 11.1% ในรอบ 12 เดือน
ส่วนในเขตลอสแองเจลิส ลองบีช และเกลนเดล ราคาบ้านไม่รวมการซื้อขายแบบเร่งด่วน (distressed sales) ปรับตัวขึ้น 7.5% ในเดือนพ.ย. 2560 เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย. 2559 โดยเมื่อเทียบเป็นรายเดือนแล้ว ราคาบ้านไม่รวมการซื้อขายแบบเร่งด่วนปรับตัวขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ย. 2560 จากเดือนต.ค. 2560
แฟรงก์ นอธาฟต์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของคอร์โลจิก เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า "การปรับตัวขึ้นของราคาบ้านเป็นเรื่องดีสำหรับผู้ขายบ้าน แต่สำหรับผู้ซื้อนั้นก็เป็นความท้าทายไปอีกขั้น"
เขากล่าวว่า "กลุ่มผู้ซื้อบ้านหลังแรกที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นนี้หาซื้อบ้านที่มีราคาไม่สูงมากนักได้ในจำนวนจำกัด ส่งผลให้ราคาบ้าน'เริ่มต้น'ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ความสามารถในการซื้อบ้านถดถอยลง"
แฟรงก์ มาร์เทลล์ ประธานและซีอีโอของคอร์โลจิก กล่าวว่า "หากไม่มีการสร้างอาคารและที่อยู่อาศัยราคาประหยัดเพิ่มขึ้นแล้ว อัตราการเติบโตของราคาบ้านที่ค่อนข้างสูงในช่วงไม่กี่ปีนี้ก็จะยังคงอยู่ต่อไปในตลาดส่วนใหญ่"
"แม้เหล่าผู้กำหนดนโยบายได้พยายามมองหาวิธีการจัดการกับการขาดแคลนบ้านราคาประหยัด แต่ก็ยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมากโดยเร็ว เพื่อก่อให้เกิดความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญในระยะกลาง"