World Today: สรุปข่าวน่าติดตามประจำวันที่ 25 มกราคม 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 25, 2018 09:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้กล่าวในการแถลงข่าวในการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอสเมื่อวานนี้ว่า การที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงในระยะนี้ เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ

-- สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวในการแถลงข่าวในการประชุม WEF ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เมื่อวานนี้ สหรัฐเป็นประเทศที่เปิดกว้างสำหรับภาคธุรกิจ และการที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงในระยะนี้ ก็เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ส่งออกของอเมริกา

ทั้งนี้ นายมนูชินกล่าวว่า สหรัฐให้การสนับสนุนการค้าที่เสรี และเป็นธรรม และเสริมว่าการขยายตัวที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ และไม่ขัดแย้งกับนโยบาย"อเมริกาต้องมาก่อน"ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

--นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ กล่าวในการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า สหรัฐจะไม่ยอมตกเป็นเหยื่อของสงครามการค้าโลกอีกต่อไป พร้อมกับส่งสัญญาณว่า รัฐบาลสหรัฐอาจปรับขึ้นภาษีศุลกากรอีกในอนาคต หลังจากที่ก่อนหน้านี้เพิ่งได้มีการลงนามบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีโซลาร์เซลล์และเครื่องซักผ้า

รมว.พาณิชย์สหรัฐยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทางการสหรัฐกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนจีนในเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อหามาตรการจัดการกับจีนต่อไป ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการประกาศสงครามการค้าและปกป้องสหรัฐจากการค้าที่ไม่เป็นธรรมจากชาติอื่นๆ

นายรอสส์ เปิดเผยว่า สงครามการค้าได้เกิดขึ้นมาสักระยะหนึ่งแล้ว ส่งผลให้วันนี้สหรัฐต้องหามาตรการปกป้องตนเองจากการค้าที่ไม่เป็นธรรม หนึ่งในนั้นคือการปรับขึ้นภาษีศุลกากร ซึ่งไม่ได้เป็นการกีดกันทางการค้า แต่เป็นการทำตามกฎระเบียบที่ควรจะเป็นเท่านั้น

ทั้งนี้ การแสดงความเห็นของนายรอสส์ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่า ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเครื่องซักผ้าและแผงพลังงานแสงอาทิตย์ โดยมาตรการดังกล่าวจะช่วยปกป้องผู้ผลิตในสหรัฐ แต่จะส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตจากจีน

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นมายืนที่เหนือระดับ 65 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 10

สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจาก EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 411.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 ม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 10

ทั้งนี้ ข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบของ EIA ออกมาสวนทางกับที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น 4.8 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ดังกล่าว

-- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลงในเดือนธ.ค.มากกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เนื่องจากภาวะขาดแคลนบ้านได้ส่งผลให้ราคาบ้านแพงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันตลาด

ทั้งนี้ ยอดขายบ้านมือสองร่วงลง 3.6% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.57 ล้านยูนิต โดยลดลงทุกภูมิภาค

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านมือสองจะลดลง 2.2% สู่ระดับ 5.70 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค.

--ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ร่วงลงแตะระดับ 53.8 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน จากระดับ 54.1 ในเดือนธ.ค.

อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว โดยได้แรงหนุนจากการจ้างงาน และคำสั่งซื้อใหม่

ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 55.5 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 34 เดือน จากระดับ 55.1 ในเดือนธ.ค.

สำหรับดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 53.3 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน จากระดับ 53.7 ในเดือนธ.ค.

-- ไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซน ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 58.6 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 139 เดือน หรือในรอบเกือบ 12 ปี จากระดับ 58.1 ในเดือนธ.ค.

ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า กิจกรรมในภาคธุรกิจของยูโรโซนยังคงมีการขยายตัว โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการจ้างงานซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 รวมทั้งคำสั่งซื้อใหม่ที่พุ่งขึ้น

สำหรับดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 57.6 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 125 เดือน หรือในรอบกว่า 10 ปี โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 56.6 ในเดือนธ.ค.

อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 61.1 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ลดลงจากระดับ 62.2 ในเดือนธ.ค.

-- กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือครั้งใหม่ในวันนี้ เพื่อกดดันให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ และขีปนาวุธ

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังประกาศคว่ำบาตรบริษัท 9 แห่ง, เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ 16 ราย และเรือ 6 ลำ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุนโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือ

บริษัท 2 แห่งที่อยู่ในรายชื่อถูกคว่ำบาตรเป็นบริษัทของจีนซึ่งได้ส่งออกโลหะ และชิ้นส่วนสำหรับผลิตอาวุธให้แก่เกาหลีเหนือ ขณะที่เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือที่ถูกคว่ำบาตรเป็นเจ้าหน้าที่ซึ่งทำงานอยู่ในจีน รัสเซีย และจอร์เจีย

-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีกำหนดการประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ โดยนักลงทุนจับตาการประชุม ECB อย่างใกล้ชิด หลังจากเจ้าหน้าที่ ECB ได้ออกมาส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ว่า ECB อาจประกาศยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากเดือนก.ย.นี้ หากเศรษฐกิจและเงินเฟ้อมีการปรับตัวตามที่ ECB คาดการณ์ไว้

-- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจในประเทศต่างๆ ที่จะเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จากสถาบัน GfK และความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนม.ค.จากสถาบัน IFO ของเยอรมนี, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธ.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค. ของสหรัฐ รวมถึงการประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. ขณะที่ญี่ปุ่นจะเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค., จีนจะเปิดเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค., ฝรั่งเศสจะเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.และความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนม.ค., อังกฤษจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2560 ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค. และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2560


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ