World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 27, 2018 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดการเงินทั่วโลกจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสสหรัฐในวันนี้ และวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งจะเป็นการแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงินเป็นครั้งแรกของเขาต่อรัฐสภาสหรัฐ หลังจากรับตำแหน่งประธานเฟด

สำหรับในวันนี้ นายพาวเวลจะกล่าวแถลงการณ์ต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ส่วนในวันพฤหัสบดีนี้ นายพาวเวลจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐ โดยการกล่าวแถลงการณ์ของนายพาวเวลทั้งในวันนี้ และวันพฤหัสบดีจะมีขึ้นในเวลา 10.00 น. ตามเวลาสหรัฐ หรือ 22.00 น.ตามเวลาไทย

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) ขานรับตลาดพันธบัตรสหรัฐที่เริ่มมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก ขณะที่นักลงทุนจับตาแถลงการณ์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อสภาคองเกรสสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,709.27 จุด พุ่งขึ้น 399.28 จุด หรือ +1.58% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,779.60 จุด เพิ่มขึ้น 32.30 จุด หรือ +1.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,421.46 จุด เพิ่มขึ้น 84.07 จุด หรือ +1.15%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ ต่อเนื่องจากวันศุกร์ โดยเมื่อคืนนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.840% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.129%

-- บริษัทยูไนเต็ด พาร์เซิล เซอร์วิส (UPS) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ ประกาศฟ้องร้องดำเนินคดีต่อสำนักงานควบคุมการผูกขาดตลาดของสหภาพยุโรป (EU) ที่ได้ปฏิเสธให้การอนุมัติต่อการที่ UPS เข้าควบรวมกิจการกับบริษัท TNT ของเนเธอร์แลนด์ โดย UPS เรียกร้องเงินชดเชยคิดเป็นวงเงิน 1.742 พันล้านยูโร (2.14 พันล้านดอลลาร์)

นอกจากนี้ UPS ยังต้องการให้สำนักงานควบคุมการผูกขาดตลาดของ EU จ่ายดอกเบี้ย พร้อมกับค่าใช้จ่ายในศาลสำหรับผลเสียหายของบริษัทที่เกิดจากมติดังกล่าวของทางสำนักงานที่มีขึ้นในเดือนม.ค.2556 ซึ่งระบุว่า การควบรวมกิจการดังกล่าวจะกระทบต่อการขนส่งพัสดุภัณฑ์ในยุโรป โดยทำให้จำนวนผู้แข่งขันในตลาดลดลง ซึ่งจะส่งผลให้ราคาดีดตัวขึ้น

-- นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดควรรักษาอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำ ขณะที่ประสิทธิภาพการผลิตต่ำ และตลาดการเงินทั่วโลกมีอุปสงค์สูงสำหรับสินทรัพย์ปลอดภัย

นายบูลลาร์ดยังระบุว่า ถ้าหากเฟดยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ก็จะส่งผลให้มีการใช้นโยบายการเงินที่ตึงตัวเกินไปสำหรับเศรษฐกิจในปัจจุบัน

-- สำนักงานกำกับการเงินญี่ปุ่น (FSA) กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาขอบข่ายทางกฎหมายเพื่อยกเครื่องมาตรการกำกับดูแล ซึ่งคาดกันว่าจะส่งผลให้ธุรกิจสตาร์ทอัพในภาคเทคโนโลยีของญี่ปุ่นสามารถแข่งขันได้โดยตรงกับสถาบันการเงินดั้งเดิมในแง่ของบริการทางการเงิน

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะส่งผลให้ผู้ให้บริการทางการเงินทั้งหมด ไม่ว่าจะธนาคารหรือธุรกิจอื่นๆ ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบเดียวกัน หลังการเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ๆนั้น ได้ก่อให้เกิดความยากลำบากในการกำกับดูแลเมื่อต้องใช้กฎระเบียบแยกกันสำหรับธุรกิจแต่ละประเภท

-- สหภาพยุโรป (EU) ประกาศความพร้อมที่จะเข้ากำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัล ถ้าหากไม่มีการควบคุมในระดับโลกสำหรับความเสี่ยงจากสกุลเงินดังกล่าว

ทั้งนี้ นายวัลดิส ดอมบรอฟสกีส์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริการการเงินของ EU กล่าวว่า นี่เป็นปรากฏการณ์ในระดับโลก และเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีการติดตามในระดับนานาชาติ

"เราไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ EU จะเข้าควบคุมสกุลเงินดิจิทัล หากเรามองเห็นความเสี่ยงเกิดขึ้น และยังไม่มีการตอบสนองที่ชัดเจนในระดับระหว่างประเทศ" เขากล่าว

-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.5% ในการประชุมวันนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้

-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.อยู่ที่ระดับ 108.2 จุด ลดลง 1.7 จุดจากเดือนก่อนหน้า โดยดัชนีความเชื่อมั่นเดือนก.พ.ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการที่สหรัฐใช้มาตรการกดดันทางการค้า และจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น

รายงานของธนาคารกลางเกาหลีใต้ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงนั้น มาจากการที่สหรัฐประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่และแผงโซลาเซลล์จากเกาหลีใต้ในอัตราสูงถึง 50% และล่าสุดกระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังได้เสนอให้มีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กจากเกาหลีใต้

-- ประธานาธิบดีมูน แจ อิน ของเกาหลีใต้ เรียกร้องให้สหรัฐผ่อนคลายเงื่อนไขในการเจรจากับเกาหลีเหนือ หลังจากที่ทางเกาหลีเหนือแสดงความพร้อมที่จะเจรจากับสหรัฐ

"สหรัฐควรลดเงื่อนไขในการเจรจา และเกาหลีเหนือต้องแสดงความตั้งใจในการปลดอาวุธนิวเคลียร์" นายมูนกล่าว

ทั้งนี้ ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ระบุว่า นาย คิม ยอง ชอล รองประธานคณะกรรมาธิการพรรคแรงงานเกาหลีเหนือ ได้กล่าวในระหว่างการหารือกับที่ปรึกษาด้านความมั่นคงสูงสุดของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ว่า เกาหลีเหนือพร้อมที่จะเจรจากับสหรัฐ

--นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.น้ำมันซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า การผลิตน้ำมันดิบของประเทศในไตรมาสแรกปีนี้ จะต่ำกว่าเพดานการผลิตที่ตกลงไว้ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) โดยการส่งออกน้ำมันจะอยู่ในระดับเฉลี่ยไม่เกิน 7 ล้านบาร์เรล/วัน

--สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า บริษัทแอปเปิล อิงค์ กำลังเตรียมออกสมาร์ทโฟน 3 รุ่นในปลายปีนี้

ทั้งนี้ ในบรรดาสมาร์ทโฟน 3 รุ่นที่จะเปิดตัวดังกล่าว รุ่นหนึ่งจะเป็น iPhone ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่แอปเปิลเคยผลิตมา ส่วนอีกรุ่นหนึ่งจะมีขนาดเท่ากับ iPhone X ในปัจจุบัน แต่ได้รับการอัพเกรด และอีกรุ่นหนึ่งเป็น iPhone ที่มีราคาไม่แพง แต่เพียบพร้อมด้วยฟีเจอร์หลักๆ ของรุ่นเรือธง

-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ลดลงเป็นเดือนที่ 2 ในม.ค. โดยดิ่งลง 7.8% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 593,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว Ffpยอดขายบ้านใหม่ที่ลดลงในเดือนม.ค. ได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของยอดขายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้

ส่วนสต็อกบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 2.4% สู่ระดับ 301,000 ยูนิตในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2552

เมื่อพิจารณายอดขายบ้าน และสต็อกบ้านในตลาด พบว่า ผู้ขายบ้านต้องใช้เวลา 6.1 เดือนในการขายบ้านจนหมดสต็อกในตลาด ซึ่งเป็นจำนวนเดือนที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2557 และเพิ่มขึ้นจากระดับ 5.5 เดือนในเดือนธ.ค.

--สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าจับตาในวันนี้ ยูโรสแตทจะเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.และความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.พ.ของยูโรโซน และเยอรมนีจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อขั้นเบื้องต้นเดือนก.พ. ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค., ดัชนีราคาบ้านเดือนธ.ค., ดัชนีราคาบ้านเดือนธ.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ส และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นจะเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเบื้องต้นเดือนม.ค. จีนจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.พ. ฝรั่งเศสจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2560 (ประมาณการครั้งที่ 2) อียูจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เบื้องต้นเดือนเดือนก.พ. ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2560 (ประมาณการครั้งที่ 2) และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ