World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 27 มีนาคม 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 27, 2018 09:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 600 จุดเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) หลังจากมีรายงานว่า จีนได้ประกาศความพร้อมที่จะเปิดการเจรจากับสหรัฐเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า โดยข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,202.60 จุด พุ่งขึ้น 669.40 จุด หรือ +2.84% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,658.55 จุด เพิ่มขึ้น 70.29 จุด หรือ +2.72% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,220.54 จุด เพิ่มขึ้น 227.87 จุด หรือ +3.26%

-- ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเริ่มคลี่คลายลง หลังจากนางหัว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงเมื่อวานนี้ว่า จีนพร้อมเปิดการเจรจากับสหรัฐเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า

คำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศจีนมีขึ้น หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐวงเงิน 3 พันล้านดอลลาร์

ทางด้านนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวว่า จีนและสหรัฐควรจัดการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงการทำสงครามทางการค้า พร้อมกับย้ำว่า จีนพร้อมที่จะเปิดตลาดสำหรับภาคธุรกิจของสหรัฐ โดยจีนจะปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันต่อบริษัทในประเทศและบริษัทต่างชาติ และจีนจะไม่บังคับให้บริษัทต่างชาติทำการถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่บริษัทท้องถิ่น รวมทั้งจีนจะคุมเข้มการปกป้องสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา

-- นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า เขามีความมั่นใจว่าสหรัฐจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าในการเจรจากับจีน

ทั้งนี้ ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า สหรัฐจะจัดเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนตามที่มีการประกาศไว้หรือไม่ นายมนูชินกล่าวว่า "เราจะเดินหน้าเก็บภาษีดังกล่าว และเรากำลังเตรียมแผนการจำกัดการลงทุนของจีนในสหรัฐ แต่ขณะเดียวกัน เราก็กำลังเจรจากับจีน และจะดูว่าเราสามารถบรรลุข้อตกลงได้หรือไม่ โดยเรากำลังมีการหารืออย่างสร้างสรรค์ และผมหวังว่าเราจะบรรลุข้อตกลงกันได้ แต่ถ้าไม่สามารถทำข้อตกลง เราก็จะเดินหน้าเก็บภาษีจากจีน เราจะไม่มีการระงับมาตรการนี้ นอกเสียจากว่าเรามีข้อตกลงที่ยอมรับได้ ซึ่งท่านประธานาธิบดีให้การยอมรับ"

-- หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า จีนได้เสนอซื้อเซมิคอนดักเตอร์มากขึ้นจากสหรัฐ ด้วยการลดยอดสั่งซื้อจากเกาหลีใต้และไต้หวัน โดยหวังว่าการดำเนินการดังกล่าวจะลดตัวเลขเกินดุลการค้ากับสหรัฐ

นอกจากนี้ ไฟแนนเชียล ไทม์สยังระบุว่า เจ้าหน้าที่ของจีนกำลังเร่งสรุปการจัดทำกฎระเบียบใหม่ภายในเดือนพ.ค. ซึ่งจะช่วยให้สถาบันการเงินต่างชาติสามารถเข้าซื้อหุ้นใหญ่ในบริษัทหลักทรัพย์ของจีน

ท่าทีครั้งใหม่ของจีนดังกล่าว มีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีในสัปดาห์ที่แล้วเพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นการลงโทษจีนที่ได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทสหรัฐ

--ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศขับนักการทูตรัสเซียจำนวน 60 คนออกจากสหรัฐวานนี้ เพื่อตอบโต้การที่รัสเซียอยู่เบื้องหลังการใช้สารพิษลอบสังหารอดีตสายลับรัสเซียและลูกสาวของเขาที่ลี้ภัยอยู่ในอังกฤษ

ขณะที่ชาติพันธมิตรของสหรัฐ อาทิ ประเทศในสหภาพยุโรป (EU) 14 ประเทศ ยูเครน แคนาดา และออสเตรเลีย ก็ได้ดำเนินมาตรการในทำนองเดียวกัน ส่งผลให้จำนวนทูตรัสเซียที่ถูกขับจากประเทศต่างๆ มีจำนวนสูงกว่า 100 คน

ส่วนเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ประกาศขับทูตรัสเซียจำนวน 23 คนออกจากสหราชอาณาจักรภายในเวลา 1 สัปดาห์ ซึ่งถือเป็นการขับไล่นักการทูตจำนวนมากที่สุดในรอบกว่า 30 ปี ขณะที่รัฐบาลรัสเซียได้ขับนักการทูตอังกฤษจำนวน 23 คนออกจากประเทศ เพื่อตอบโต้รัฐบาลอังกฤษ

-- กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียแถลงเมื่อวานนี้ว่า รัสเซียขอประท้วงการขับนักการทูตรัสเซียออกจากสหรัฐและ 14 ชาติในสหภาพยุโรป (EU) เพื่อตอบโต้การที่รัสเซียอยู่เบื้องหลังการใช้สารพิษลอบสังหารอดีตสายลับรัสเซียและลูกสาวของเขาที่ลี้ภัยอยู่ในอังกฤษ

กระทรวงการต่างประเทศระบุว่า รัสเซียจะสอบสวนหาผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว และจะตอบโต้สหรัฐและยุโรปที่ได้ขับนักการทูตรัสเซียออกนอกประเทศ

ทางด้านนายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า รัสเซียรู้สึกเสียใจกับการดำเนินการของชาติตะวันตก และจะวิเคราะห์สถานการณ์ รวมทั้งจะเสนอมาตรการตอบโต้ชาติต่างๆให้แก่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เพื่อทำการตัดสินใจขั้นสุดท้าย

-- สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ได้สร้างความประหลาดใจด้วยการเดินทางเยือนประเทศจีนเมื่อวานนี้ ซึ่งหากข่าวดังกล่าวเป็นความจริงก็จะถือเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายคิม หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศในปี 2554

อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า สหรัฐยังไม่สามารถยืนยันรายงานข่าวที่ว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือกำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางเยือนประเทศจีน

--คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FTC) ยืนยันข่าวที่ว่า FTC กำลังสอบสวนเฟซบุ๊กเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของบริษัทต่อข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการ หลังจากแคมบริดจ์ อนาลิติกา ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์การเมือง สามารถเข้าถึงข้อมูลโปรไฟล์ของผู้ใช้บริการเฟซบุ๊กจำนวน 50 ล้านคนโดยไม่ได้รับอนุญาต และเอื้อประโยชน์ต่อทีมหาเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2559

หาก FTC พบว่าเฟซบุ๊กละเมิดข้อตกลง ก็จะส่งผลให้บริษัทถูกปรับเป็นเงินจำนวน 40,000 ดอลลาร์ต่อกระทง

-- บริษัททวิตเตอร์ประกาศว่า ทางบริษัทจะห้ามการลงโฆษณาที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการระดมทุนด้วยการเสนอขายโทเคนสกุลเงินดิจิทัล (Initial Coin Offering) หรือ ICO รวมทั้งการส่งเสริมการขายโทเคน และการให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัล

นอกจากนี้ นโยบายใหม่ของทวิตเตอร์จะส่งผลให้มีการระงับโฆษณาจากแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล

มาตรการของทวิตเตอร์มีขึ้น หลังจากที่เฟซบุ๊กและกูเกิลประกาศห้ามการโฆษณาในลักษณะเดียวกันก่อนหน้านี้

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศในวันนี้ ได้แก่ ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนมี.ค.ของอียู ขณะที่สหรัฐจะรายงานดัชนีราคาบ้านเดือนม.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ส ดัชนีการผลิตเดือนมี.ค. โดยเฟดสาขาริชมอนด์ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2560 เยอรมนีจะเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จาก GfK ส่วนสหรัฐจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2560 และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.พ.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ