World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 14 มิถุนายน 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 14, 2018 09:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.00% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะเดียวกันเฟดได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยคาดว่าจะปรับขึ้นในเดือนก.ย. และธ.ค. ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4 ครั้งในปีนี้

แถลงการณ์หลังการประชุมของเฟดบ่งชี้ว่า เฟดมีการปรับเปลี่ยนการใช้ถ้อยคำในแถลงการณ์เพื่อแสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการปรับตัวดีขึ้น โดยระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจ"ปรับตัวขึ้นในอัตราที่แข็งแกร่ง" จากเดิมที่ใช้คำว่า"ปรับตัวขึ้นปานกลาง"ในการประชุมเดือนมี.ค. ส่วนอัตราการว่างงาน"ลดลง" จากเดิมที่ใช้คำว่า"อยู่ในระดับต่ำ" และการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน "ปรับตัวขึ้น" จากเดิมที่ใช้คำว่า "ชะลอตัวลง"

นอกจากนี้ เฟดยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 2.8% จากเดิมที่ 2.7% และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อในปีนี้ สู่ระดับ 2.10% จากเดิมที่ระดับ 1.9% ส่วนอัตราการว่างงานในปีนี้ เฟดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 3.6% จากเดิมที่ 3.8%

-- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เปิดเผยว่า สหรัฐเตรียมเผชิญหน้ากับจีนในประเด็นการค้าอย่างเต็มรูปแบบ โดยรัฐบาลสหรัฐเตรียมประกาศรายชื่อสินค้าจีนวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าน่าจะมีการบังคับใช้จริงในเดือนก.ค.

ประธานาธิบดีสหรัฐได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวทางสถานีฟ็อกซ์นิวส์เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐว่า รัฐบาลจีนอาจจะไม่พอใจที่สหรัฐมีท่าทีแข็งกร้าวในประเด็นการค้าเช่นนี้ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้สถานการณ์ตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศต้องดุเดือดขึ้นอีกครั้ง

-- นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ได้ออกมาแสดงความหวังว่า เกาหลีเหนือจะยุติการใช้อาวุธนิวเคลียร์อย่างถาวรในช่วงที่ปธน.ทรัมป์เป็นผู้บริหารประเทศ หลังจากที่ผู้นำสหรัฐได้ทวีตข้อความว่า "ไม่มีภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนืออีกต่อไป"

ทั้งนี้ คำกล่าวของนายปอมเปโอมีขึ้นเพื่อลดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่า เกาหลีเหนือไม่ได้ให้คำมั่นที่จะรับผิดชอบต่อประเด็นอื่นๆในการประชุมที่สิงคโปร์เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกล่าวแต่เพียงว่า เกาหลีเหนือจะเดินหน้าลดการใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดอาวุธนิวเคลียร์อย่างถาวร

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ขยายตัว 6.8% ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนเม.ย.ที่ขยายตัว 7%

ส่วนยอดค้าปลีกสินค้าผู้บริโภคในเดือนพ.ค. ปรับตัวขึ้น 8.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 3.04 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 4.75 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการลงทุนด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัว 10.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยชะลอตัวลงเล็กน้อยจากช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ซึ่งมีการขยายตัว 10.3%

-- นางซาราห์ ฮัคคาบี แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยว่า นายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว โดยมีอาการดีขึ้น หลังเผชิญภาวะหัวใจวายก่อนหน้านี้

คณะแพทย์ของโรงพยาบาลวอลเตอร์ รี้ด เมดิคอล เซ็นเตอร์ ระบุว่า นายคุดโลว์ฟื้นตัวขึ้นอย่างมาก

"ท่านประธานาธิบดี และบรรดารัฐมนตรีมีความยินดีที่เห็นว่าคุณคุดโลว์กลับบ้านแล้ว และหวังว่าจะเห็นเขากลับมาทำงานในไม่ช้า" นางแซนเดอร์สกล่าว

-- โฟล์คสวาเกน ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของเยอรมนี เปิดเผยว่า ทางบริษัทถูกทางการเยอรมนีปรับเป็นเงิน 1 พันล้านยูโร (1.18 พันล้านดอลลาร์) จากกรณีอื้อฉาวเกี่ยวกับการโกงตัวเลขมลพิษจากไอเสียของรถยนต์ดีเซล

โฟล์คสวาเกนระบุว่า ทางบริษัทจะยอมรับโทษปรับดังกล่าว

-- -กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ดีดตัวขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย. โดยการปรับตัวขึ้นของดัชนี PPI ได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และค่าใช้จ่ายในภาคบริการ

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 3.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2555 หลังจากเพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนเม.ย.

-- นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆในสัปดาห์นี้ โดยการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะมีขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ซึ่งคาดว่า ECB จะส่งสัญญาณปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ส่วนการประชุมของธนาคารญี่ปุ่น (BOJ) จะมีขึ้นในวันที่ 14-15 มิ.ย.นี้ โดยคาดว่าคณะกรรมการ BOJ จะคงนโยบายการเงินในการประชุมครั้งนี้

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค.ของเยอรมนี, ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ของอังกฤษ ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคานำเข้า-ดัชนีราคาส่งออกเดือนพ.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย.

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนพ.ค., จีนจะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ค. ขณะที่ยูโรสแตทจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนเม.ย.และอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค. ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรม-การใช้กำลังการผลิตเดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ