World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 25 มิถุนายน 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 25, 2018 08:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้น 119.19 จุด หรือ 0.49% แตะที่ระดับ 24,580.89 จุด เมื่อวันศุกร์ (22 มิ.ย.) โดยตลาดได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่พุ่งขึ้นตามราคาน้ำมัน ภายหลังจากที่โอเปกมีมติเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมครั้งล่าสุด แต่ไม่ระบุปริมาณชัดเจน ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าไม่น่าจะเพิ่มขึ้นมากอย่างที่ตลาดกังวลก่อนหน้านี้

-- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ออกแถลงการณ์หลังการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า โอเปกจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน แต่ไม่มีการระบุปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

แถลงการณ์โอเปกระบุว่า เนื่องจากสมาชิกบางประเทศได้ลดกำลังการผลิตมากกว่าที่ได้ตกลงกันไว้ในเดือนพ.ย.2559 ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติให้สมาชิก 12 ประเทศจากทั้งหมด 14 ประเทศ เพิ่มกำลังการผลิต เพื่อให้ตัวเลขความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันกลับสู่จำนวน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันที่ตกลงกันไว้ในเดือนพ.ย.2559

-- นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รมว.พลังงานของรัสเซีย เปิดเผยว่า รัสเซียสนับสนุนแผนการของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน อย่างไรก็ดี มติปรับเพิ่มกำลังการผลิตดังกล่าวไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ทวีตข้อความเรียกร้องให้กลุ่มโอเปกเพิ่มกำลังการผลิตแต่อย่างใด

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังกลุ่มโอเปกได้ออกแถลงการณ์หลังการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตเมื่อวันศุกร์ โดยระบุว่า โอเปกจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน แต่ไม่มีการระบุปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

-- ธนาคารกลางจีนประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.50% เมื่อวานนี้ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.นี้ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนโครงการสว็อปหนี้สินต่อทุน (debt-to-equity swap) และเพื่อช่วยธุรกิจขนาดเล็กให้สามารถระดมเงินทุนได้มากขึ้น

ทั้งนี้ การปรับลด RRR จะทำให้มีเม็ดเงินระบายเข้าสู่ระบบการเงินในปริมาณ 7 แสนล้านหยวน หรือ 1.08 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในจำนวนนี้จะถูกกันไว้สำหรับการผ่อนคลายสินเชื่อให้กับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อม จำนวน 2 แสนล้านหยวน

-- นายเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีตุรกี โดยสำนักข่าวอานาดูโลของรัฐบาลตุรกีรายงานว่า ผลการนับคะแนนเบื้องต้นซึ่งได้เสร็จสิ้นไปแล้วประมาณ 97.9% ปรากฎว่า นายเออร์โดกันได้คะแนน 52.5% ขณะที่นายมูฮาร์เรม อินซ์ จากพรรครีพับลิกัน พีเพิลส์ ปาร์ตี้ (CHP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ได้คะแนน 30.7% นายเออร์โดกัน วัย 64 ปี ซึ่งครองอำนาจในฐานะผู้นำตุรกีตั้งแต่ปี 2546 กล่าวว่า พรรคพีเพิลส์ อัลลิอันซ์ ซึ่งเป็นพรรคพันธมิตรที่ร่วมกันระหว่างพรรคจัสติก แอนด์ ดิเวลเลอปเมนท์ (AKP) ของเขา และพรรคเนชันแนลลิสต์ มูฟเมนท์ ปาร์ตี้ ได้ครองเสียงข้างมากในรัฐสภาซึ่งมีที่นั่งรวม 600 ที่นั่ง

การเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐสภาของตุรกีในครั้งนี้ จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในระบบการเมืองของประเทศในรอบกว่าครึ่งศตวรรษ เนื่องจากตุรกีจะเปลี่ยนไปใช้ระบบการบริหารผ่านประธานาธิบดี (executive presidency) แทนรัฐสภา ภายหลังการเลือกตั้งครั้งนี้

-- เสียวหมี่ คอร์ป บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนของจีน เปิดเผยว่า บริษัทหวังว่าจะระดมทุนได้ราว 6.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในตลาดหุ้นฮ่องกง ซึ่งจะเป็นการขายหุ้น IPO ที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกงในรอบสองปี

ทั้งนี้ เสียวหมี่จะเริ่มเปิดตัวหุ้น IPO ในวันจันทร์ และเสนอขายหุ้นไปจนถึงวันพฤหัสบดี ก่อนที่จะเริ่มซื้อขายในกระดานหลักของตลาดหุ้นฮ่องกงในวันที่ 9 ก.ค.นี้

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เสียวหมี่ได้เริ่มต้นการเดินสายโรดโชว์เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนก่อนเตรียมเข้าเทรดในตลาดหุ้นฮ่องกง ซึ่งรายงานระบุว่า ทางบริษัทจะเสนอขายหุ้นประมาณ 2.18 พันล้านหุ้น ในช่วงราคา 17-22 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าตามราคาตลาด 4.8 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง

-- นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แสดงความกระตือรือร้นที่จะทำการตรวจสอบรถยนต์นำเข้าให้แล้วเสร็จภายในช่วงปลายเดือนก.ค. หรือเดือนส.ค. หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งการให้รมว.พาณิชย์ตรวจสอบว่า ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ที่นำเข้าจากต่างประเทศนั้นเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติหรือไม่

ทั้งนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์ได้สั่งการให้นายรอสส์พิจารณาแผนการตรวจสอบเพื่อประเมินว่า รถยนต์และรถบรรทุกที่นำเข้าจากต่างประเทศนั้นเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติหรือไม่ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้สร้างความวิตกกังวลให้กับประเทศผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อย่างญี่ปุ่น และยุโรป ว่าจะส่งผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ของตนเอง

ด้านตัวแทนจากอุตสาหกรรมยานยนต์บางส่วนได้ออกมาแสดงความวิตกว่า มาตรการดังกล่าวอาจทำให้ราคารถยนต์และรถบรรทุกในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น และท้ายที่สุดจะทำให้ศักยภาพด้านการแข่งขันในอุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐ ลดน้อยลง และชาวอเมริกันมีตัวเลือกลดลงตามไปด้วย

-- นายเพอร์รี วาร์จิโย ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสิ้นเดือนนี้ เพื่อสกัดความเสี่ยงต่อการทรุดตัวของค่าเงินรูเปียห์จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้

ทั้งนี้ ธนาคารกลางอินโดนีเซียจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 27-28 มิ.ย.

เมื่อเดือนที่แล้ว ธนาคารกลางอินโดนีเซียปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งภายในเวลา 2 สัปดาห์ในวันที่ 17 พ.ค. และ 30 พ.ค. โดยแต่ละครั้งปรับขึ้น 0.25% รวมสู่ระดับ 4.75% เพื่อขจัดความเสี่ยงจากการดิ่งลงของค่าเงินรูเปียห์เทียบดอลลาร์

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ อินโดนีเซียจะเปิดเผยยอดส่งออก, นำเข้า และดุลการค้าเดือนพ.ค. ขณะที่สถาบัน Ifo จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนมิ.ย.ของเยอรมนี ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนพ.ค.จากเฟดชิคาโก และยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย. ขณะที่ญี่ปุ่นจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย. ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนเม.ย.โดย S&P/Case-Shiller และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จาก Conference Board

-- นักลงทุนจับตากระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งเตรียมเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของ GDP ไตรมาส 1 ในวันพฤหัสบดีนี้

ส่วนเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของ GDP ไตรมาส 1 โดยระบุว่าขยายตัวที่ระดับ 2.2% ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.3% สำหรับตลอดปี 2560 ที่ผ่านมานั้น GDP สหรัฐมีการขยายตัว 1.4% ในไตรมาสแรก, 3.1% ในไตรมาส 2, 3.2% ในไตรมาส 3 และ 2.9% ในไตรมาส 4


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ