World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 2 กรกฎาคม 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Monday July 2, 2018 08:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้น 55.36 จุด หรือ +0.23% เมื่อวันศุกร์ (29 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มวัสดุและหุ้นกลุ่มธนาคาร ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าได้เริ่มคลี่คลายลง หลังจากที่จีนเตรียมประกาศมาตรการผ่อนคลายข้อจำกัดการลงทุนจากต่างประเทศ

หนังสือพิมพ์ไชน่า ซีเคียวริตี้ เจอร์นัลรายงานว่า ทางการจีนได้ทำการทบทวนข้อจำกัดในการเข้าถึงตลาดของการลงทุนจากต่างประเทศ และจะเปิดเผยรายละเอียดต่อสาธารณชนในเร็วๆนี้

รายงานระบุว่า ข้อจำกัดในด้านพลังงาน, ทรัพยากร, โครงสร้างพื้นฐาน, การคมนาคม, กระแสการหมุนเวียนด้านการค้า และการให้บริการระดับมืออาชีพ จะถูกยกเลิกหรือผ่อนคลายลง เพื่อให้สอดคล้องกับที่รัฐบาลจีนได้ประกาศมาตรการเปิดเสรีในภาคการเงินและยานยนต์เมื่อไม่นานมานี้

-- นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมิ.ย.ของสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย

ส่วนตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนพ.ค.ของสหรัฐนั้น ปรับตัวขึ้น 223,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 188,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2543 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 3.9%

-- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เตรียมเปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 12-13 มิ.ย. ในวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าวันศุกร์นี้ตามเวลาไทย

ในการประชุมวันดังกล่าว ที่ประชุม FOMC มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.00% ขณะเดียวกันเฟดได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยคาดว่าจะปรับขึ้นในเดือนก.ย. และธ.ค. ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4 ครั้งในปีนี้

-- เม็กซิโกได้เปิดคูหาเลือกตั้งทั่วประเทศในวันอาทิตย์ ซึ่งนับเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ของเม็กซิโก โดยผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 89 ล้านคนได้เริ่มทยอยกันออกมาหย่อนบัตรเลือกตั้ง ตั้งแต่เวลา 08.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 20.00 น.ตามเวลาไทยเมื่อวานนี้ และมีกำหนดปิดคูหาเลือกตั้งในเวลา 18.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 06.00 น.ตามเวลาไทยในวันนี้

สำหรับการเลือกตั้งในครั้งนี้ ถูกมองว่าเป็นการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ เพราะนอกจากชาวเม็กซิโกจะเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแทนนายเอ็นริเก เปนญา นิเอโต รวมไปถึงวุฒิสมาชิก 128 คน ผู้ว่าการรัฐต่างๆและหัวหน้ารัฐบาลกรุงเม็กซิโกซิตี้ 8 คน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติและเจ้าหน้าที่รัฐบาลแล้ว ยังถือเป็นครั้งแรกที่ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งอิสระซึ่งไม่สังกัดพรรคการเมืองใดๆ ได้รับอนุญาตให้ลงเลือกตั้งอีกด้วย

-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น (ทังกัน) ประจำไตรมาส 2 อยู่ที่ +21 ลดลงจากระดับ +24 ในไตรมาส 1

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มบริษัทนอกภาคการผลิตในไตรมาส 2 ซึ่งรวมถึงภาคบริการนั้น อยู่ที่ระดับ +24 เพิ่มขึ้นจากระดับ +23 ในไตรมาส 1

-- นายฮอร์สท์ ซีโฮเฟอร์ รัฐมนตรีมหาดไทยของเยอรมนีได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อคืนนี้ และยังได้ลาออกจากตำแหน่งประธานพรรคสหภาพสังคมคริสเตียน (CSU) ด้วยเช่นกัน อันเนื่องมาจากข้อพิพาทระหว่างนายซีโฮเฟอร์ และนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เกี่ยวกับนโยบายผู้ลี้ภัย นายซีโฮเฟอร์ได้ประกาศการลาออกในระหว่างการประชุมพรรค CSU ที่เมืองมิวนิค โดยการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อประเมินว่า ที่ประชุมจะยอมรับข้อเสนอของนางแมร์เคิลในประเด็นนโยบายผู้ลี้ภัยที่ได้มีการบรรลุข้อตกลงในการประชุมสุดยอดของสหภาพยุโรป (EU) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหรือไม่

-- กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ยอดส่งออกเกาหลีใต้ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่าครึ่งของเศรษฐกิจของประเทศ ปรับตัวลง 0.09% เมื่อเทียบรายปีในเดือนมิ.ย. แตะที่ 5.123 หมื่นล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขดังกล่าวจะปรับตัวลง แต่ยอดส่งออกของเกาหลีใต้ยังคงอยู่เหนือเส้น 5 หมื่นล้านดอลลาร์ติดต่อกันถึง 4 เดือนเป็นครั้งแรก

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้เรียกร้องให้ทางการซาอุดิอาระเบียปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน เพื่อต่อสู้กับค่าเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้น

ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความว่า เขาได้ขอร้องให้กษัตริย์ซัลมานแห่งซาอุดิอาระเบียปรับขึ้นกำลังการผลิตน้ำมันขึ้นที่ระดับ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนนี้ ใจความในทวิตเตอร์ของปธน.ทรัมป์ระบุว่า "ผมเพิ่งได้สนทนากับกษัตริย์ซัลมานแห่งซาอุดิอาระ และอธิบายกับท่านว่า เนื่องด้วยความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในอิหร่านและเวนาซุเอลา ผมจึงขอร้องให้ซาอุดิอาระเบียปรับขึ้นกำลังการผลิตน้ำมันสูงสุด 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และท่านก็ได้ตอบตกลง"

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า เขาคาดว่าการตรวจสอบเพื่อประเมินว่ารถยนต์และรถบรรทุกที่นำเข้าจากต่างประเทศเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐหรือไม่ จะดำเนินการเสร็จสิ้นใน 3-4 สัปดาห์ข้างหน้านี้

ทั้งนี้ หากผลการตรวจสอบดังกล่าวทำให้สหรัฐตัดสินใจเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ตามที่เคยขู่ไว้ก่อนหน้านี้ จะส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่น, ยุโรป และประเทศอื่นๆ ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมิ.ย. ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 55 จากระดับ 54.9 ในเดือนพ.ค.

ส่วนดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมิ.ย. ลดลงแตะ 51.5 จากระดับ 51.9 ในเดือนพ.ค.

ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการ หรือภาคการผลิต ของจีนยังคงขยายตัว หากดัชนี PMI เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จะบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคบริการ หรือภาคการผลิต

-- นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า รายงานข่าวที่มีการระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต้องการให้สหรัฐถอนตัวออกจากองค์การการค้าโลก (WTO) นั้น ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด

"ข่าวนี้ไม่ถูกต้อง ถือเป็นข่าวลวง" นายมนูชินกล่าว "ท่านประธานาธิบดีแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า ท่านมีความกังวลเกี่ยวกับ WTO ท่านคิดว่ามีบางแง่มุมที่ไม่เป็นธรรม ท่านคิดว่าจีนและประเทศอื่นใช้ WTO ในการเอาเปรียบสหรัฐ แต่เรามีความสนใจในการค้าเสรี และการทำลายกำแพงการค้า"

ก่อนหน้านี้ Axios ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวในสหรัฐ รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวว่า เขาต้องการให้สหรัฐถอนตัวออกจาก WTO

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของประเทศต่างๆที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ รวมถึง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมิ.ย.ของจีนจากไฉซิน ขณะที่มาร์กิตจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมิ.ย.ของฝรั่งเศส เยอรมนี อียู อังกฤษ และสหรัฐ

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลียจะประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย ขณะที่เกาหลีใต้จะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย., ยูโรสแตทจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค.และยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ของกลุ่มสหภาพยุโรป ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนพ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ