World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 18 กรกฎาคม 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 18, 2018 09:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นทางการคลัง, ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค, การลงทุนในภาคธุรกิจ, ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นในภาคครัวเรือน, การขยายตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ และสภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลายภายในประเทศ ขณะที่อัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำ

นายพาวเวลกล่าวว่า ถึงแม้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวเพียง 2% ในไตรมาสแรก แต่ก็คาดว่าการขยายตัวในไตรมาส 2 จะสูงกว่าไตรมาสแรกอย่างมาก ส่วนภาวะตลาดแรงงานนั้น นายพาวเวลคาดว่ายังคงมีความแข็งแกร่งในช่วงหลายปีข้างหน้า ขณะที่เงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเช่นกัน

ทั้งนี้ นายพาวเวลยังกล่าวด้วยว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปยังคงเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม โดยถ้อยแถลงดังกล่าวของนายพาวเวลทำให้นักลงทุนเชื่อว่า เฟดจะไม่เร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้เศรษฐกิจภายในประเทศส่งสัญญาณแข็งแกร่งขึ้นก็ตาม

-- ญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป (EU) ได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ซึ่งครอบคลุมถึงการยกเลิกการจัดเก็บภาษีผลิตภัณฑ์หลายรายการ

นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า ทั้งญี่ปุ่นและ EU จะร่วมกันผลักดันให้มีการดำเนินการตามข้อตกลงการค้าเสรี ในขณะที่นายฌอง คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า ญี่ปุ่นและ EU จะเดินหน้าเพื่อปฏิรูปตามแนวทางขององค์การการค้าโลก

-- คณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) เปิดเผยว่า จีนยังคงเชื่อมั่นว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจที่ระดับ 6.5% ในปีนี้ แม้ว่าสถานการณ์ด้านการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจเป็นอุปสรรคสำหรับเศรษฐกิจจีนในช่วงครึ่งปีหลัง

แถลงการณ์จาก NDRC มีขึ้นหลังจากที่มีรายงานว่า เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี และการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย.ชะลอตัวต่ำสุดในรอบ 2 ปี อีกทั้งยังมีกระแสคาดการณ์ว่า สภาพธุรกิจของจีนจะชะลอตัวลงในขณะที่การค้าตึงเครียดขึ้น

-- บิตคอยน์พุ่งขึ้นกว่า 10% ทะยานเหนือระดับ 7,400 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากปัจจัยทางเทคนิค

นอกจากนี้ บิตคอยน์ยังได้รับปัจจัยบวก หลังจากสื่อรายงานว่า แบล็คร็อค ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้ตั้งคณะทำงานชุดหนึ่งขึ้นเพื่อพิจารณาการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล และเทคโนโลยีบล็อกเชน

-- นายอิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียมีความพร้อมที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ทำไว้ในกรุงเฮลซิงกิ เกี่ยวกับประเด็นความมั่นคงระหว่างประเทศ

นายโคนาเชนคอฟกล่าวว่า กองทัพรัสเซียพร้อมที่จะเพิ่มช่องทางติดต่อกับสหรัฐ เพื่อหารือเกี่ยวกับการขยายสนธิสัญญาลดอาวุธเชิงยุทธศาสตร์, กระชับความร่วมมือในซีเรีย และประเด็นอื่นๆทางการทหาร

-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากร่วงลง 0.5% ในเดือนพ.ค.

ทั้งนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเป็นการวัดการปรับตัวของภาคการผลิต, เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค โดยภาคการผลิต และภาคเหมืองแร่ต่างก็ปรับตัวขึ้นในเดือนมิ.ย.

-- สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านทรงตัวที่ระดับ 68 ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง และภาวะขาดแคลนบ้านในตลาด แต่ต้นทุนการสร้างบ้านที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยกดดันความเชื่อมั่น

ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ดัชนีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น 4 จุด

ส่วนดัชนีคาดการณ์ยอดขายในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ลดลง 2 จุด สู่ระดับ 73 จุด ขณะที่ดัชนีภาวะยอดขายในปัจจุบันทรงตัวที่ระดับ 74 จุด

-- นายไบรอัน มอยนิฮาน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ คาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐจะพุ่งขึ้นเหนือ 4% ในไตรมาส 2 หลังจากขยายตัว 2.2% ในไตรมาสแรก

"เรามีความพอใจต่อเศรษฐกิจสหรัฐ" นายมอยนิฮานกล่าว และเสริมว่า ทางธนาคารปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการปฏิรูปภาษี และผ่อนคลายกฎระเบียบ

-- โกลด์แมน แซคส์ ประกาศแต่งตั้งนายเดวิด โซโลมอน วัย 56 ปี เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ แทนนายลอยด์ แบลงค์ไฟน์ โดยนายโซโลมอนจะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารในวันที่ 1 ต.ค. ขณะที่นายแบลงค์ไฟน์จะยังคงดำรงตำแหน่งประธานธนาคารจนถึงสิ้นปีนี้

นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ ยังเปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรพุ่งขึ้น 44% สู่ระดับ 2.57 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจวาณิชธนกิจ และการซื้อขายตราสารหนี้

-- บริษัท เอเอ็นเอ โฮลดิงส์ อิงค์ (ANA) เปิดเผยว่า ทางสายการบินจะยกเลิกเที่ยวบินในญี่ปุ่นจำนวน 378 เที่ยวในเดือนส.ค. เนื่องจากมีความจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบเครื่องยนต์โรลส์รอยซ์ของเครื่องบินโบอิ้ง 787 หลังจากที่ได้ทำการยกเลิกเที่ยวบินจำนวน 619 เที่ยวในเดือนก.ค.ด้วยสาเหตุเดียวกัน

ก่อนหน้านี้ ANA ประกาศยกเลิกเที่ยวบินจำนวน 113 เที่ยวในช่วงวันที่ 6-12 ก.ค., 176 เที่ยวในช่วงวันที่ 13-22 ก.ค. และ 330 เที่ยวในช่วงวันที่ 23-31 ก.ค.

-- สายการบินไรอันแอร์ประกาศว่าจะยกเลิกเที่ยวบินระหว่างไอร์แลนด์และสหราชอาณาจักรในวันที่ 20 ก.ค. นี้จำนวน 24 เที่ยวเนื่องจากการผละงานประท้วงของนักบินจากไอร์แลนด์ โดยการประกาศยกเลิกเที่ยวบินล่วงหน้านี้มีเป้าหมายที่จะลดความเสียหายให้กับลูกค้าที่จะเดินทางในวันดังกล่าว

-- บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไร และรายได้ในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจยา ขณะที่ธุรกิจสินค้าเพื่อผู้บริโภคประสบภาวะย่ำแย่

ทั้งนี้ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ระบุว่า บริษัทมีกำไร 2.10 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.07 ดอลลาร์/หุ้น

นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ 2.08 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.039 หมื่นล้านดอลลาร์

-- บริษัทอเมซอน ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซของสหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดขายในสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างมากในวัน Prime Day 2018 ซึ่งเป็นวันช็อปปิ้งระดับโลกที่อเมซอนจัดขึ้น โดยมีการลดราคาสินค้าอย่างมากสำหรับสมาชิก Prime จำนวนหลายแสนรายการเพื่อกระตุ้นยอดขายประจำปี

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะเปิดทำเนียบขาวต้อนรับนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) โดยนายยุงเกอร์จะเดินทางเยือนสหรัฐ และจะเข้าพบปธน.ทรัมป์ในวันที่ 25 ก.ค. เพื่อหารือนโยบายต่างประเทศ, ความมั่นคง, เศรษฐกิจ รวมทั้งการต่อต้านการก่อการร้าย

ทั้งนี้ การเดินทางเยือนสหรัฐของนายยุงเกอร์มีขึ้น ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า หลังสหรัฐเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าจาก EU ขณะที่ EU ก็ได้ออกมาตรการตอบโต้สหรัฐ

-- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ โดยอังกฤษจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. ขณะที่ยูโรสแตทจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ของกลุ่มยูโรโซน ทางด้านสหรัฐจะแปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมิ.ย. และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนมิ.ย. ขณะที่ออสเตรเลียจะเปิดเผยอัตราว่างงานและตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย. ส่วนอังกฤษจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย. ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีการผลิตเดือนก.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ