World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 1 สิงหาคม 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 1, 2018 09:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) หลังจากมีรายงานข่าวว่า สหรัฐและจีนกำลังเจรจากันเพื่อยุติความขัดแย้งทางการค้า โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ รวมทั้งแถลงการณ์ของคณะกรรมการเฟดที่จะมีการเผยแพร่หลังการประชุมครั้งนี้เช่นกัน

-- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 50.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 51.0 ในเดือนมิ.ย.

อย่างไรก็ตาม ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนยังคงมีการขยายตัว และดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคการผลิต

-- สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วางแผนที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 25% คิดเป็นวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ แผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% นั้น สูงกว่าแผนการที่สหรัฐเคยประกาศไว้เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมาว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนในอัตรา 10%

-- นายคามาล คาร์ราซี ประธานสภายุทธศาสตร์ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ของอิหร่าน กล่าวในวันนี้ว่า อิหร่านไม่ได้ให้คุณค่าต่อข้อเสนอของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการเจรจากับอิหร่าน โดยไม่มีเงื่อนไข

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์เปิดเผยว่า เขายินดีที่จะพบกับผู้นำของอิหร่านโดยไม่มีเงื่อนไข เพื่อพบปะพูดคุยกันหลังจากที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายอยู่ในภาวะตึงเครียด จากการที่สหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน

-- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มยูโรโซนมีการขยายตัว 0.3% ในไตรมาส 2 โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และต่ำกว่าตัวเลขการขยายตัว 0.4% ในไตรมาส 1

การชะลอตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า ขณะที่ผู้นำในภาคธุรกิจวิตกว่าความขัดแย้งทางการค้าจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% เช่นเดียวกันในเดือนพ.ค.

นอกจากนี้ กระทรวงยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค.

-- ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 127.4 ในเดือนก.ค. จากระดับ 127.1 ในเดือนมิ.ย. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 126.5

-- ผลสำรวจของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.5% ในเดือนพ.ค. แต่ชะลอตัวจากระดับ 6.6% ของเดือนเม.ย. โดยราคาบ้านเพิ่มขึ้นสูงสุดในเมืองซีแอตเติล, ลาสเวกัส และซานฟรานซิสโก

-- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า อัตราการว่างงานในยูโรโซนอยู่ที่ระดับ 8.3% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2551

อัตราการว่างงานดังกล่าวไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนพ.ค. และลดลงจากระดับ 9.0% ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

-- ผลการสำรวจของแกลลัพและเวลส์ ฟาร์โก ระบุว่า นักลงทุนราว 75% ซึ่งได้ลงทุนในวงเงินมากกว่า 10,000 ดอลลาร์ในหุ้น พันธบัตร และกองทุนรวม มีความเห็นว่า บิตคอยน์เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงอย่างมาก ขณะที่นักลงทุนไม่ถึง 0.5% มองว่าไม่มีความเสี่ยง

ผลสำรวจยังพบว่า นักลงทุน 70% ไม่มีความสนใจเข้าซื้อบิตคอยน์ และมีนักลงทุนเพียง 29% ที่ระบุว่ามีความรู้เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล

-- หนังสือพิมพ์ Aftenposten ของนอร์เวย์รายงานว่า ภาวะแห้งแล้งในช่วงฤดูร้อนปีนี้ จะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรในปีนี้ของนอร์เวย์อยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1960

กลุ่มผู้ผลิตนมไม่เชื่อว่าจะมีการเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตรเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ ขณะที่เกษตรกรจำนวนหนึ่งเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศเลื่อนการชำระหนี้ของเกษตรกร และบางส่วนขอให้รัฐบาลให้สินเชื่อเพื่อให้เกษตรกรสามารถอยู่รอดได้ หลังเผชิญภัยจากภาวะแห้งแล้ง

-- สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) เขตชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกดีดตัวขึ้น 1.4 จุด สู่ระดับ 65.5 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.

ดัชนี PMI เขตชิคาโกยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัว โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อใหม่ และการผลิตสินค้า

-- นายคามาล คาร์ราซี ประธานสภายุทธศาสตร์ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ของอิหร่าน กล่าวว่า อิหร่านไม่ได้ให้คุณค่าต่อข้อเสนอของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการเจรจากับอิหร่าน โดยไม่มีเงื่อนไข

-- บริษัท ชาร์ป คอร์ป เปิดเผยว่า บริษัทมีผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 32.6% ในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.92 หมื่นล้านเยน (172 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากปีก่อน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการลดค่าใช้จ่าย และธุรกิจหน้าจอ LCD ที่แข็งแกร่ง

-- เครดิต สวิส กรุ๊ป ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 2 พุ่งขึ้นสู่ระดับ 647 ล้านฟรังก์ (655.33 ล้านดอลลาร์) สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 550 ล้านฟรังก์

-- บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) เปิดเผยกำไรในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 4 ของปีงบการเงินของบริษัท สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่รายได้ต่ำกว่าคาด

ทั้งนี้ P&G เปิดเผยกำไรที่ระดับ 0.94 ดอลลาร์/หุ้น โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 0.09 ดอลลาร์/หุ้น

P&G ยังเปิดเผยว่า รายได้อยู่ที่ระดับ 1.650 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.654 หมื่นล้านดอลลาร์

-- บริติช ปิโตรเลียม (BP) ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของสหราชอาณาจักร รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2 พุ่งขึ้นมากกว่าคาด โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 2.8 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.7 พันล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น 2.5% สู่ระดับ 10.25 เซนต์/หุ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มการจ่ายเงินปันผลครั้งแรกในรอบ 4 ปี

-- ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไร และรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 2

ทั้งนี้ ไฟเซอร์มีกำไร 81 เซนต์/หุ้น โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 75 เซนต์/หุ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 1.347 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.326 หมื่นล้านดอลลาร์

-- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 50.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 51.0 ในเดือนมิ.ย.

อย่างไรก็ตาม ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนยังคงมีการขยายตัว และดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคการผลิต

-- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ค.ของฝรั่งเศส,เยอรมนี,อียู และอังกฤษจากมาร์กิต รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนมิ.ย., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และการแถลงมติอัตราดอกเบี้ยโดยคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ออสเตรเลียเตรียมเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนมิ.ย. อียูเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย. ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษเตรียมจัดประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และสหรัฐเตรียมเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนก.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ