บริษัทวิจัยมาเลเซียชี้ค่าเงินริงกิตยังต้องเผชิญแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ

บริษัทวิจัยแอมแบงก์ กรุ๊ป รีเสิร์ช ของมาเลเซีย เปิดเผยว่า ค่าเงินริงกิตมาเลเซียที่อ่อนค่าลงมาเกือบ 1% นับตั้งแต่ต้นปีจนแตะที่ 4.085 ริงกิต/ดอลลาร์ในขณะนี้ คาดว่า จะยังคงอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 4.10 ริงกิต/ดอลลาร์ ในช่วงสิ้นสุดไตรมาส 4

แอมแบงก์ระบุในรายงานว่า ดอลลาร์สหรัฐน่าจะแข็งค่าต่อไปเรื่อยๆเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในปี 2561 เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องและเร็วกว่าธนาคารกลางของประเทศอื่นๆ ซึ่งส่งผลให้ดอลลาร์กลายเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจมากขึ้นในแง่ของอัตราผลตอบแทน

แอมแบงก์กล่าวว่า "การแข็งค่าของดอลลาร์ประกอบกับปัจจัยรบกวนอื่นๆ ที่มีอยู่นั้นจะยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ตลาดการเงินอ่อนแอลง และเราก็คาดว่าริงกิตจะอ่อนค่าลงต่อไป"

แอมแบงก์ยังระบุอีกว่า การที่ธนาคารกลางมาเลเซียคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 3.25% นั้นนับว่ายังคงต่ำอยู่ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อก็คาดว่าจะยังคงอ่อนแอ หลังจากที่รัฐบาลได้เข้าไปอุดหนุนราคาน้ำมันและประกาศยกเลิกภาษีสินค้าและบริการ (GTS) โดยหันมาเก็บภาษีการขายและบริการแทน (SST)

ทั้งนี้ ค่าเงินริงกิตต้องเผชิญแรงกดดันอย่างหนักตลอดเดือนก.ค.ที่ผ่านมา โดยอ่อนค่าลงจากเดือนมิ.ย.ถึง 0.6% มาอยู่ที่ 4.065 ริงกิต/ดอลลาร์ และยังคงอ่อนค่าลงต่อเนื่องมาจนถึงเดือนส.ค.

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินริงกิตมาเลเซียวันนี้เปิดตลาดมาที่ 4.082 ริงกิต/ดอลลาร์ และเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 4.079 และ 4.086 ริงกิต/ดอลลาร์ในการซื้อขายช่วงเช้า

เอ็มแบงก์คาดว่า ริงกิตจะอ่อนค่าลงไปจนถึง 4.11-4.12 ริงกิต/ดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่ 1 และ 2 ของปี 2562 แต่อาจแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 4.08 ในไตรมาสสุดท้ายของปีดังกล่าว