World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 13 กันยายน 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday September 13, 2018 09:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สื่อต่างประเทศรายงานว่า สหรัฐกำลังหาทางเริ่มต้นเจรจาการค้าครั้งใหม่กับจีน โดยนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ได้ส่งจดหมายไปยังเจ้าหน้าที่จีน เพื่อเชิญให้เข้าร่วมการเจรจาแก้ไขข้อขัดแย้งทางการค้า โดยการประชุมอาจมีขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

รายงานข่าวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ภาคธุรกิจสหรัฐได้รวมตัวกันใช้ชื่อว่า Americans for Free Trade เพื่อต่อต้านนโยบายการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยกลุ่มดังกล่าวได้ทำการรณรงค์โดยใช้ชื่อว่า Tariffs Hurt the Heartland โดยมีการซื้อโฆษณา และจัดการประชุมในรัฐต่างๆ พร้อมกับเชิญชวนให้สมาชิกสภาคองเกรสเข้าร่วมงานรณรงค์ซึ่งจะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้าที่รัฐเพนซิลเวเนีย อิลลินอยส์ และเทนเนสซี

-- นายเรย์ ดาลิโอ ผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associates กองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่สภาวะถดถอยในอีกราว 2 ปีข้างหน้า โดยสกุลเงินดอลลาร์อาจอ่อนค่าลง เนื่องจากรัฐบาลได้พิมพ์ธนบัตรเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ

นอกจากนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายด้านเงินบำนาญและสาธารณสุขที่เพิ่มขึ้นจะยิ่งสร้างแรงกดดันให้กับงบประมาณของชาติอีกด้วย

-- แอปเปิล อิงค์เปิดตัว iPhone ใหม่ 3 รุ่น รวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่นๆในวันนี้ตามที่สื่อคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ซึ่งประกอบไปด้วย iPhone Xs Max, iPhone Xs และ iPhone XR

ทั้งนี้ ราคา iPhone XR เริ่มต้นที่ 749 ดอลลาร์ ส่วน iPhone Xs เริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์ และ iPhone Xs Max เริ่มต้นที่ 1,099

แอปเปิลจะรับพรีออเดอร์สำหรับ iPhone Xs และ Xs Max ในวันศุกร์นี้ และลูกค้าจะเริ่มได้รับสินค้าในวันที่ 21 ก.ย. ส่วนพรีออเดอร์สำหรับ iPhone XR จะมีขึ้นในวันที่ 19 ต.ค. และจะเริ่มได้รับสินค้าในวันที่ 26 ต.ค.

-- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภค พุ่งขึ้น 11% ในเดือนก.ค. จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 9.186 แสนล้าน (8.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักของญี่ปุ่นซึ่งเป็นดัชนีวัดการใช้จ่ายด้านทุนของภาคเอกชนนั้น ดีดตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนในเดือนก.ค. หลังจากที่ลดลง 8.8% ในเดือนมิ.ย. และลดลง 3.7% ในเดือนพ.ค.

-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ "Beige Book" เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐขยายตัวในระดับปานกลาง ขณะที่ภาคธุรกิจยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะใกล้

อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้า เนื่องจากการที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเมื่อไม่นานมานี้ ได้ส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าปรับตัวสูงขึ้นทั่วสหรัฐ

-- นางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่จะเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากพบสัญญาณการก่อตัวของภาวะไม่สมดุลในระบบการเงิน

นางเบรนาร์ดยังได้กล่าวย้ำถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ว่า ถึงแม้มีความเหมาะสมในการใช้มาตรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังคงจับตาการเร่งตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ หรือภาวะบิดเบือนในตลาดการเงินซึ่งจะทำให้เฟดต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น

-- สำนักวาติกันแถลงเมื่อวานนี้ว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก จะเสด็จเยือนประเทศญี่ปุ่นในปีหน้า ซึ่งจะถือเป็นการเดินทางเยือนญี่ปุ่นของสมเด็จพระสันตะปาปาเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 40 ปี

"ข้าพเจ้ามีความต้องการที่จะเดินทางเยือนญี่ปุ่นในปีหน้า และข้าพเจ้าหวังว่าจะสำเร็จตามความประสงค์" สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสตรัสต่อตัวแทนของสมาคมศาสนาญี่ปุ่นที่เดินทางมาเข้าเฝ้า

-- นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า พายุเฮอร์ริเคนฟลอเรนซ์อาจทำให้เกิดสตรอม เซิร์จ ซึ่งเป็นคลื่นขนาดใหญ่สูงถึง 20 ฟุตในชายฝั่งของทั้งรัฐนอร์ธ แคโรไลนา และเซาธ์ แคโรไลนา

นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า ชายฝั่งดังกล่าวอาจเกิดสตรอม เซิร์จจากพายุเฮอร์ริเคน เนื่องจากมี 2 อ่าวอยู่ในเส้นทางพายุ ซึ่งจะทำให้มีการสะสมมวลน้ำ และทำให้เกิดคลื่นพุ่งสูง

สำนักงานสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐ (NOAA) เปิดเผยว่า ฟลอเรนซ์เป็นพายุที่มีความรุนแรง ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกคิดเป็นปริมาณ 20-40 นิ้ว และทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่

-- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง 0.1% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีที่แล้ว หลังจากทรงตัวในเดือนก.ค.

การปรับตัวลงของดัชนี PPI มีสาเหตุจากการร่วงลงของราคาอาหาร และค่าใช้จ่ายในภาคบริการ แม้ว่าราคาพลังงานดีดตัวขึ้น

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 2.8% หลังจากเพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนก.ค.

-- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ออกรายงานระบุว่า ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้น 490,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 98.9 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนส.ค.

โอเปกคาดว่าปริมาณน้ำมันจากผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 2.02 ล้านบาร์เรล/วัน และเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.15 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า

ส่วนการผลิตน้ำมันของโอเปกเพิ่มขึ้น 278,000 บาร์เรล/วันสู่ระดับ 32.56 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนส.ค. โดยการผลิตเพิ่มขึ้นในลิเบีย, อิรัก และไนจีเรีย ขณะที่ลดลงในอิหร่าน, เวเนซุเอลา และแอลจีเรีย

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ โดยญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนก.ค และ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. ออสเตรเลียเตรียมเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนส.ค. เยอรมนีเตรียมเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค. จีนเตรียมเปิดเผยยอดปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวนเดือนส.ค. ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะจัดประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย ส่วนสหรัฐเตรียมเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และอัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค.

-- ส่วนในวันพรุ่งนี้ จีนจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนส.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนส.ค. ขณะที่อียูจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.ค. ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนส.ค., ยอดค้าปลีกเดือนส.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ