รายงานเผยการทำธุรกรรม M&A ของจีนลดลงช่วงครึ่งปีแรก จากผลกระทบข้อพิพาทการค้า

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 12, 2018 14:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เบรน แอนด์ คอมปะนี ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการระดับโลกเปิดเผยว่า ธุรกรรมการควบรวมกิจการ (M&A) ได้ชะลอตัวลงในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจทั่วโลก

รายงานระบุว่า บริษัทสัญชาติจีนมีการทำข้อตกลง M&A กับบริษัทต่างชาติคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในครึ่งปีแรก ลดลงจากช่วงเดียวกันในปี 2560 ราว 60%

เบรนให้เหตุผลถึงการที่มีการทำข้อตกลง M&A น้อยลงในปีนี้ว่า เป็นเพราะการอ่อนค่าของเงินหยวน, ความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ และการบังคับใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น

รายงานกล่าวว่า แม้กิจกรรมการควบรวมกิจการของจีนในช่วงปี 2558-2560 จะเกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมากกว่า 40% แต่กิจกรรม M&A ในภูมิภาคดังกล่าวกลับลดลงอย่างเห็นได้ชัดในครึ่งปีแรกของปีนี้

รายงานชี้ว่า บริษัทจีนยังมีโอกาสอีกมากในการควบรวมกิจการกับบริษัทต่างชาติ โดยเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา มีเม็ดเงินถูกนำไปใช้ในการทำกิจกรรมการ M&A ของบริษัทจีนเพียง 0.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในขณะที่เม็ดเงินการทำกิจกรรม M&A ของญี่ปุ่นมากกว่าจีนเป็นเท่าตัว

เบรนพบว่า ข้อตกลง M&A ที่ทำโดยบริษัทเอกชนกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับข้อตกลงที่ดำเนินการโดยภาครัฐ อีกทั้งยังคาดการณ์ว่าการทำข้อตกลง M&A เพิ่มขึ้นนั้นจะช่วยเพิ่มการเติบโตและขยายโอกาสในการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศให้บริษัทจีน นายพิล เหลิ่ง ผู้บริหารฝ่ายกิจกรรมการควบควรและเข้าซื้อกิจการในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของเบรนแอนด์คอมปะนี กล่าวว่า การทำธุรกรรม M&A จะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้กับบริษัทต่างๆของจีนที่อยู่ในภาคธุรกิจสาธารณูปโภค, การก่อสร้าง และการดำเนินธุรกิจผ่านอินเทอร์เน็ตในประเทศต่างๆ อาทิ บราซิล, อินเดีย และอินโดนีเซีน ผ่านทางยุโรปและอเมริกาเหนือ ซึ่งยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ใหญ่ที่สุดในการควบรวมกิจการของบริษัทจีน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ