World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 13 พฤศจิกายน 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 13, 2018 09:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 600 จุดเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) เนื่องจากกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงตามราคาหุ้นแอปเปิลที่ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากบริษัทลูเมนตัม โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ที่ผลิตอุปกรณ์จับภาพบนใบหน้าของ iPhone ได้ปรับลดแนวโน้มผลประกอบการ ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงหลังจากราคาหุ้นโกลด์แมน แซคส์ดิ่งลง อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า ทางการมาเลเซียได้กดดันให้โกลด์แมน แซคส์จ่ายคืนเงินค่าธรรมเนียมจัดตั้งกองทุน 1MDB ซึ่งพัวพันกับคดีทุจริตและติดสินบน นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างต่อเนื่องของราคาน้ำมันยังส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงเช่นกัน

-- บริษัทลูเมนตัม โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเลเซอร์ที่สามารถจับภาพ 3 มิติในฟีเจอร์ faceID ที่ใช้ในการผลิต iPhone ประกาศปรับลดแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2 ของปีหน้า โดยระบุว่า หนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของบริษัทขอให้ลดการจัดส่งอุปกรณ์ดังกล่าวลงอย่างมีนัยสำคัญสำหรับคำสั่งซื้อก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ดี แม้จะไม่ได้ระบุชื่อของบริษัทลูกค้า แต่แอปเปิลเป็นลูกค้ารายใหญ่สุดของลูเมนตัม ซึ่งสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนว่าหนึ่งในสายผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญที่สุดในภาคเทคโนโลยีกำลังเผชิญกับวิกฤตอุปสงค์ที่ถดถอย ขณะเดียวกันยังสร้างความวิตกเกี่ยวกับยอดขายของ iPhone รุ่นล่าสุดของแอปเปิลในช่วงใกล้เทศกาลวันหยุด สอดคล้องกับสำนักข่าวนิกเกอิที่รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การผลิต iPhone ได้ชะลอตัวลง

-- บริษัทอาลีบาบา ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีน เปิดเผยว่า iPhone ของบริษัทแอปเปิล ครองยอดขายสูงสุดในหมวดโทรศัพท์บนแพลตฟอร์มช้อปปิงออนไลน์ในวันคนโสด เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมียอดขายแซงหน้าแบรนด์คู่แข่งจากจีน

อย่างไรก็ดี อาลีบาบาไม่ได้เปิดเผยยอดขายจำนวนเครื่องของโทรศัพท์ที่มีการจำหน่ายเมื่อวานนี้ เพียงแต่ระบุว่า แอปเปิลเป็นหนึ่งใน 237 แบรนด์ที่มียอดขายมากกว่า 100 ล้านหยวน (14.36 ล้านดอลลาร์) ขณะเดียวกัน ยอดขายโทรศัพท์ของหัวเว่ยครองอันดับ 2 ตามมาด้วยเสียวหมี่ ขณะที่ซัมซุงอยู่ในอันดับ 8

-- ราคาหุ้นของโกลด์แมน แซคส์ปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 2 ปี หลังจากมีข่าวว่า นายลิม กวน เอิง รมว.คลังมาเลเซีย เรียกร้องให้โกลด์แมน แซคส์จ่ายคืนเงินค่าธรรมเนียมจำนวน 600 ล้านดอลลาร์ที่รัฐบาลมาเลเซียจ่ายให้แก่ทางธนาคารในการจัดตั้งกองทุน 1MDB ซึ่งพัวพันกับข่าวอื้อฉาวของการทุจริต และการติดสินบน

ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์เป็นผู้ดำเนินการในการทำข้อตกลง 3 ฉบับในการออกพันธบัตรในปี 2555 และ 2556 เพื่อจัดตั้งกองทุน 1MDB โดยสามารถระดมเงินทุน 6.5 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่กองทุนดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ

อย่างไรก็ดี ทางการสหรัฐได้กล่าวหานายทุนชาวมาเลเซียคนหนึ่งว่าได้ยักยอกเงินจากกองทุนดังกล่าว และใช้เงินบางส่วนในการจ่ายสินบนหลายร้อยล้านดอลลาร์

แม้นายทิม เลสเนอร์ ซึ่งเป็นวาณิชธนกรของโกลด์แมน แซคส์ ได้ยอมรับผิดต่อการสมรู้ร่วมคิดในการยักยอกเงินกองทุนดังกล่าว แต่โกลด์แมน แซคส์ก็ระบุว่า นายเลสเนอร์ได้ทำการหลอกลวงธนาคาร และหลบเลี่ยงการตรวจสอบของธนาคาร

-- นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีของอังกฤษเปิดเผยว่า ผู้แทนเจรจาว่าด้วยการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) กำลังเร่งทำงานแข่งกับเวลา เพื่อวางกรอบข้อตกลง Brexit แต่กระบวนการขั้นตอนสุดท้ายของการหารือแสดงให้เห็นว่าดำเนินไปอย่างยากลำบาก

รัฐบาลอังกฤษกำลังแข่งกับเวลาในการเร่งทำข้อตกลง Brexit ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ก่อนที่สหราชอาณาจักรจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) อย่างสมบูรณ์ในช่วงสิ้นเดือนมี.ค.ปีหน้า

--"แสตน ลี" นักเขียนการ์ตูนชื่อดังชาวอเมริกันและอดีตประธานมาร์เวล คอมิกส์ เสียชีวิตแล้วในวัย 95 ปี ณ ศูนย์การแพทย์ซีดาร์ ซีนายในนครลอส แอนเจลิส หลังฝากผลงานการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่ "แฟนทาสติก โฟร์" ในปี 2504 รวมถึงยังเป็นผู้สร้างตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ชื่อดังอีกจำนวนมาก ทั้ง สไปเดอร์แมนและฮัลค์

ด้านบุตรสาวของแสตน ลี เปิดเผยว่า บิดาของตนเป็นผู้ชายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและยอดเยี่ยมที่สุด เขารู้สึกผูกพันกับแฟน ๆ ของเขาในการสร้างสรรค์ผลงานต่อไป" ด้านซีอีโอของ Pow! Entertainment กล่าวยกย่องว่า "ลี" เป็นบิดาของวัฒนธรรมสมัยนิยม สำหรับการสร้างสรรค์จักรวาลซูเปอร์ฮีโร่ และเป็นสัญลักษณ์ของผู้บุกเบิกที่แท้จริงโดยไม่อาจมีผู้ใดเปรียบเทียบ"

ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นายลีต้องเผชิญกับโรคภัยไข้เจ็บในวัยชราอยู่เป็นระยะ ซึ่งรวมถึงโรคปอดบวม การจากไปของเขายังสร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับบรรดานักแสดงจำนวนมากที่เคยร่วมงานในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล

-- นายเบน บรอดเบนท์ รองผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) กล่าวว่า ช่วงเวลา 2-3 เดือนข้างหน้าจะมีความสำคัญต่ออนาคตของเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร เนื่องจากขณะนี้ฐบาลอังกฤษกำลังแข่งกับเวลา ในการเร่งทำข้อตกลงว่าด้วยการถอนตัวของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ก่อนที่สหราชอาณาจักรจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) อย่างสมบูรณ์ในช่วงสิ้นเดือนมี.ค.ปีหน้า

BoE คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรจะมีการขยายตัว 1.7% ในปีหน้า ขณะที่เงินเฟ้อจะแตะ 2.1% โดยการคาดการณ์ของ BoE ขึ้นอยู่กับการที่สหราชอาณาจักรสามารถบรรลุข้อตกลง Brexit กับ EU และยังคงมีความสัมพันธ์ทางการค้าอย่างใกล้ชิดกับ EU

"ผมยังคงคิดว่านี่เป็นสถานการณ์ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด แต่เมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งทุกวันจะมีทั้งข่าวบวกและข่าวลบเข้าตลาด ก็จะส่งผลกระทบทำให้ค่าเงินปรับตัวผันผวนได้" นายบรอดเบนท์กล่าว

-- นายจู ไห่ปิน นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน ระบุว่า มีแนวโน้ม 55% ที่การเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง นอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินา ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค.นี้ จะประสบกับความล้มเหลว

"เรายังคงมีความระมัดระวัง เนื่องจากความท้าทายต่อการแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงอยู่ในระดับสูง" นายจูกล่าว และ "สหรัฐและจีนมีความขัดแย้งกันมากกว่าเรื่องของเทคโนโลยี, สิทธิทรัพย์สินทางปัญญา, การเข้าถึงตลาด, นโยบายอุตสาหกรรม และมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่การแข่งขันกันระหว่าง 2 มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ" พร้อมเสริมว่า ยังไม่ปรากฎชัดว่า จีนยินยอมที่จะทำการเปลี่ยนแปลงมากกว่าในเรื่องการค้าหรือไม่

-- นายซูฮาอิล บิน โมฮัมเหม็ด ฟาราจ ฟาริส อัล มาสโรอี ประธานกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และรัฐมนตรีน้ำมันของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวว่า สมาชิกโอเปกพร้อมที่จะตอบสนองต่อความต้องการน้ำมันในตลาด ในกรณีที่อุปทานน้ำมันลดลงจากปัจจัยทางการเมือง

นอกจากนี้ยังระบุว่า โอเปกจะใช้ความพยายามในการรักษาตลาดน้ำมันให้อยู่ในภาวะสมดุล และมีเสถียรภาพ โดยโอเปกจะยังคงให้ความสำคัญต่อผลประโยชน์ของผู้บริโภค ผู้ผลิตน้ำมัน กลุ่มอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจโลก เนื่องจาก "ความร่วมมือระหว่างโอเปกและประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะยังคงดำเนินต่อไปจนถึงปี 2020 เพื่อให้ตลาดน้ำมันอยู่ในภาวะสมดุล"

-- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ออสเตรเลียจะเปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนต.ค.จากเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) เยอรมนีจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. อังกฤษจะเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.ย. ขณะที่สถาบัน ZEW จะเปิดเผยความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนพ.ย.ของเยอรมนีและอียู ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนต.ค.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนต.ค. ออสเตรเลียเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จากเวสต์แพค ส่วนจีนเปิดเผยการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนต.ค. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. ยอดค้าปลีกเดือนต.ค. ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนต.ค. ด้านอังกฤษเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. อียูจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2561 (ประมาณการครั้งที่ 2) และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย. ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ