สำนักงานตรวจสอบการแข่งขันและตลาด (CMA) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักด้านการแข่งขันและดูแลผู้บริโภคของสหราชอาณาจักร ได้เผยแพร่รายงานใหม่ 2 ฉบับเมื่อวานนี้ โดยมีเนื้อหาว่า แวดวงธุรกิจตรวจสอบบัญชีของสหราชอาณาจักรอาจต้องเผชิญกับการปฏิรูป หลังเกิดข้อถกเถียงเกี่ยวกับบทบาทของบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีที่เป็นสาเหตุเบื้องหลังความล้มเหลวของบริษัทรายใหญ่ ๆ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีระดับ Big Four ของสหราชอาณาจักร ซึ่งประกอบด้วยเอินส์ท แอนด์ ยัง (อีวาย), ดีลอยท์, เคพีเอ็มจี และไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส (พีดับบลิวซี) ต่างตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า บริษัทเหล่านี้ให้ความสำคัญกับการสร้างรายได้จากบริการให้คำปรึกษา มากกว่าคุณภาพของบริการตรวจสอบบัญชี โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทเคพีเอ็มจี ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วน "สมรู้ร่วมคิด" ในการล้มละลายของบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่อย่างคาริลเลียน
CMA ระบุว่า "บริษัทเหล่านี้ควรปรับโครงสร้างด้วยการแยกธุรกิจตรวจสอบบัญชีและบริการให้คำปรึกษาออกจากกัน โดยผู้ตรวจสอบบัญชีควรให้ความสำคัญกับการตรวจสอบบัญชีเท่านั้น ไม่ควรต้องมาขายบริการให้คำปรึกษา เพื่อยกระดับบริการให้ดีขึ้น"
นอกจากนี้ CMA ยังให้คำแนะนำขณะยื่นข้อเสนอต่อฝ่ายนิติบัญญัติเพื่อยกระดับวงการตรวจสอบบัญชีว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดการแข่งขัน กลุ่มบริษัทรายใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร (FTSE 350) ควรถูกตรวจสอบบัญชีโดยบริษัทอย่างน้อย 2 แห่ง และในจำนวนนี้ควรเป็นบริษัทนอกกลุ่ม Big Four อย่างน้อย 1 แห่ง
CMA ระบุว่า "มาตรการนี้จะทำให้บริษัทขนาดกลางมีโอกาสในการเข้าถึงบริษัทรายใหญ่ ทั้งยังจะช่วยให้บริษัทเหล่านี้สามารถพัฒนาประสบการณ์และความน่าเชื่อถือ และมีการตรวจสอบความถูกต้องเกี่ยวกับคุณภาพในคราวเดียวกัน"
CMA ยังได้ระบุสาเหตุเบื้องหลังคุณภาพการตรวจสอบบัญชีที่ไม่น่าพึงพอใจด้วย เช่น การที่บริษัทต่าง ๆ มักเลือกผู้ตรวจสอบบัญชีที่มี "วัฒนธรรม" หรือ "เคมี" ตรงกัน มากกว่าผู้ตรวจสอบบัญชีที่ดำเนินการได้อย่างเข้มงวดที่สุด