ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (24 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยแม้ว่านายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้หารือร่วมกับผู้บริหารของธนาคารรายใหญ่ 6 แห่งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับความเพียงพอของสภาพคล่องในตลาด แต่ก็ไม่สามารถบรรเทาความวิตกกังวลของนักลงทุนได้ นอกจากนี้ การที่หน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐยังคงปิดทำการเนื่องจากขาดงบประมาณ หรือชัตดาวน์ รวมทั้งข่าวลือที่ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการปลดนายเจอโรม พาวเวล ออกจากตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นั้น ยังเป็นอีกปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาดเช่นกัน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,792.20 จุด ร่วงลง 653.17 จุด หรือ -2.91% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,351.10 จุด ลดลง 65.52 จุด หรือ -2.71% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,192.92 จุด ลดลง 140.08 จุด หรือ -2.21%
-- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐโจมตีธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดหลังจากที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักครั้งประวัติศาสตร์ เมื่อคืนนี้ โดยทวีตข้อความระบุว่า ปัญหาทางเศรษฐกิจเดียวของอเมริกาคือเฟด"
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า "ปัญหาทางเศรษฐกิจของอเมริกาคือเฟด พวกเขาไม่เข้าใจตลาด พวกเขาไม่เข้าใจสงครามการค้าที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หรือสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น หรือแม้แต่การชัตดาวน์รัฐบาลจากพรรคเดโมแครตต่องบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดน เฟดอยากเป็นนักกอล์ฟที่ทรงพลัง แต่ไม่สามารถทำสกอร์ได้ เพราะไม่ได้แตะลูก เขาพัตต์ไม่เป็น"
สำหรับถ้อยแถลงของทรัมป์มีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความวุ่นวาย จากการปิดหน่วยงานรัฐบาลบางส่วน ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังคงยืดเยื้อ และกระแสข่าวที่รายงานว่าประธานาธิบดีทรัมป์กำลังอยู่ระหว่างการปรึกษาหารือถึงความเป็นไปได้ที่จะปลดนายเจอโรม พาวเวลออกจากตำแหน่งประธานเฟด
-- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐและแกนนำพรรคโดเมแครตในวุฒิสภาสหรัฐได้ถกเถียงกันเกี่ยวกับการปิดหน่วยงานรัฐบาลบางส่วนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยปราศจากสัญญาณของความเป็นไปได้ในการพยายามเดินหน้าให้หน่วยงานที่เผชิญภาวะชัตดาวน์กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง หลังต้องประสบกับสภาพทางตันทางการเมืองจากการผลักดันร่างกฎหมายงบประมาณก่อสร้างกำแพงกั้นบริเวณพรมแดนระหว่างสหรัฐและเม็กซิโกของประธานาธิบดีทรัมป์
ด้านนายชัค ชูเมอร์ นายชัค ชูเมอร์ แกนนำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาสหรัฐและนางแนนซี เพโลซี ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเดโมแครต กล่าวหาว่า ประธานาธิบดีทรัมป์อยู่ภายใต้อิทธิพลฝ่ายอนุรักษ์นิยมของพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมระบุว่า "นี่เป็นวันคริสต์มาสอีฟและประธานาธิบดีทรัมป์ทำให้ประเทศตกอยู่ในสถานการณ์ความสับสนวุ่นวาย" หลังจากที่ภาวะชัตดาวน์เข้าสู่วันที่ 3 แล้ว
-- โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐเปิดเผยว่า นายเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกีได้ส่งคำเชิญให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐเดินทางเยือนตุรกีในปี 2562
นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า "ในขณะที่ยังไม่มีการกำหนดแผนการที่แน่นอน ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดกว้างสำหรับการพบหารือที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต"
-- หน่วยงานบรรเทาภัยพิบัติของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุสึนามิพัดเข้าถล่มเมืองชายฝั่งบนเกาะสุมาตราและเกาะชวา หลังภูเขาไฟอานัก กรากาตัวปะทุอย่างรุนแรงบริเวณช่องแคบซุนเดา จนส่งผลทำให้เกิดดินถล่มใต้ทะเลและเกิดเป็นสึนามิ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 373 คนแล้วและมีรายงานผู้บาดเจ็บ 1,59 คน ขณะที่ยังมีผู้สูญหายอีก 128 คน
เจ้าหน้าที่เตือนประชาชนในเมืองชายฝั่งที่ตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาไฟลูกดังกล่าว ให้หลีกเลี่ยงพื้นที่บริเวณชายหาด ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าอาจจะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิพัดเข้าถล่มอีกระลอก หลังจากที่ภูเขาไฟอานัก กรากาตัวปะทุส่งกลุ่มควันและเถ้าถ่านออกมาอีกครั้ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่ภารกิจการกู้ภัยผู้ประสบเหตุต้องเผชิญกับอุปสรรคจากถนนที่ถูกตัดขาด ส่วนอุปกรณ์หนักได้รับการลำเลียงไปยังพื้นที่ประสบเหตุรุนแรงเพื่อช่วยค้นหาแล้ว
-- เฮลิคอปเตอร์ที่นางสาวมาร์ธา เอริกา อลอนโซ ผู้ว่าการรัฐปวยบลา ซึ่งอยู่ทางตอนกลางของประเทศเม็กซิโก และสามีโดยสารมาด้วยประสบอุบัติเหตุตก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น เพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่เฮลิคอปเตอร์ลำนี้เดินทางมุ่งหน้าออกจากเมืองหลวงของรัฐปวยบลา ส่งผลให้ทั้งคู่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และได้รับการยืนยันจากนายโลเปซ โอบราดอร์ ประธานาธิบดีเม็กซิโกที่ทวีตข้อความแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของทั้งคู่ ขณะที่จนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมนักบินของเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว
สำหรับนางสาวอลอนโซ วัย 45 ปี เพิ่งจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการรัฐปวยบลาเพียงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ถือเป็นผู้ว่าการรัฐหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของรัฐ หลังจากที่คว้าชัยชนะอย่างถล่มถลายจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
-- เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เปิดฉากปะทะคารมจากกรณีที่ญี่ปุ่นกล่าวหาว่า เรือรบของเกาหลีใต้ลำหนึ่งล็อกเรดาร์ควบคุมการยิงมาที่เครื่องบินลาดตระเวนของญี่ปุ่นในพื้นที่ทะเลญี่ปุ่น ถือเป็นสัญญาณล่าสุดแห่งความถดถอยของความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เคนจิ คานาสึกิ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการเอเชียและโอเชเนีย กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า ตนเองพูดคุยกับคิม ยอง คิล ผู้อำนวยการหน่วยงานเดียวกันของเกาหลีใต้ในระหว่างการประชุมที่กรุงโซลแล้วเกี่ยกับเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียใจและได้ผลักดันให้เกาหลีใต้ใช้มาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก อย่างไรก็ดี ทางเกาหลีใต้ร้องเรียนว่า ญี่ปุ่นดันเรื่องขึ้นมาโดยปราศจากข้อเท็จจริงยืนยันที่ชัดเจน
ทางด้านรัฐบาลญี่ปุ่นยืนกรานว่า เรือรบของเกาหลีใต้พุ่งเป้าเรดาร์มายังเครื่องบินลาดตระเวนของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น พร้อมกับระบุว่า เป็นการกระทำที่อันตรายเป็นอย่างยิ่ง
-- ธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) ยื่นเรื่องขอใบอนุญาต เพื่อยกระดับการให้บริการด้านการธนาคารของธนาคารสาขาในเมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือหากการถอนตัวของอังกฤษจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) ไร้ซึ่งข้อตกลง
การขอใบอนุญาตดังกล่าวจะช่วยให้ RBS สามารถรักษากลุ่มลูกค้าของธนาคารในสหภาพยุโรปเอาไว้ได้ หาก Brexit ปราศจากข้อตกลงในที่สุด
สำหรับ RBS ถือเป็นธนาคารอีกแห่งที่เตรียมจัดตั้งศูนย์กลางประจำสหภาพยุโรป เพื่อรับมือกับ Brexit เช่นเดียวกันกับลอยด์ส แบงกิ้ง กรุ๊ป ที่เตรียมจัดตั้งสาขา 3 แห่งในกรุงเบอร์ลิน แฟรงค์เฟิร์ต และลักเซมเบิร์ก
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ โดยญี่ปุ่นจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนต.ค.
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานการประชุม ส่วนสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และดัชนีการผลิตเดือนธ.ค.จากเฟดสาขาริชมอนด์