World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 3 มกราคม 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 3, 2019 09:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงเกือบ 300 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดิ่งลงในคืนนี้ หลังจากบริษัท แอปเปิล อิงค์ ได้ปรับลดคาดการณ์รายได้ไตรมาสล่าสุด เนื่องจากยอดขายในจีนชะลอตัวลง

ณ เวลา 08.59 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 294 จุด หรือ 1.26% แตะที่ระดับ 23,031

ทั้งนี้ การร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวผันผวนในช่วงเช้านี้ด้วย

-- แอปเปิล อิงค์ ประกาศปรับลดคาดการณ์รายได้ประจำไตรมาสแรกของปีการเงินของบริษัทซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมา จากเดิมที่คาดไว้ในช่วง 8.9-9.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงเหลือ 8.4 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยตัวเลขดังกล่าวอยุ่ในระดับต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดไว้ว่าแอปเปิลจะมีรายได้อยู่ที่ 9.15 หมื่นล้านดอลลาร์

รายงานดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นแอปเปิลดิ่งลงอย่างหนักในการซื้อขายนอกเวลาทำการ และส่งผลกระทบต่อหุ้นบริษัทอื่นๆในกลุ่มเดียวกันด้วย

นายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทแอปเปิล อิงค์ เปิดเผยว่า การปรับลดคาดการณ์รายได้ครั้งนี้เป็นผลจากยอดขาย iPhone ที่ชะลอตัวลงในจีน โดยนอกจากเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงเพราะได้รับแรงกดดันจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนแล้ว ผู้บริโภคชาวจีนบางรายยังเลือกที่จะไม่ซื้อสินค้าจากแอปเปิลเพราะแอปเปิลเป็นบริษัทของสหรัฐ และหันไปซื้อสินค้าจากบริษัทจีนที่เป็นคู่แข่งแทน เช่น หัวเว่ย

-- ตลาดการเงินทั่วโลกต่างก็วิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของภาคการผลิตในประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐ จีน และยูโรโซน

ไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซน ปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 5 สู่ระดับ 51.4 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2559 และต่ำกว่าระดับ 51.8 ในเดือนพ.ย. ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนธ.ค.ของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 53.8 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว จากระดับ 55.3 ในเดือนพ.ย.

สำหรับผลสำรวจที่ไฉซินทำร่วมกันมาร์กิตระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนธ.ค.ของจีนอยู่ที่ระดับ 49.7 ลดลงจากเดือนพ.ย.ซึ่งอยู่ที่ระดับ 50.2 โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนขยายตัวต่ำกว่า 50 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2560

-- รัฐบาลสหรัฐไม่ได้แสดงท่าทียอมรับความพยายามของจีนในการลดความตึงเครียดทางการค้า ก่อนที่เจ้าหน้าที่จีนและสหรัฐจะเปิดฉากการเจรจาการค้าในสัปดาห์หน้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การที่จีนประกาศแผนปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งล่าสุดนั้น อาจไม่สามารถสร้างความพอใจให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จีนได้ประกาศเดินหน้าเปิดกว้างทางเศรษฐกิจ แต่นโยบายดังกล่าวก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ที่ยืนยันว่าจีนควรต้องมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องการการโอนถ่ายเทคโนโลยีและการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา

-- ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ได้ส่งจดหมาย "ที่ยอดเยี่ยม" มาให้ตน โดยผู้นำทั้งสองประเทศความหวังที่จะได้พบปะกันเป็นครั้งที่สอง

ในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบขาววานนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า "เราได้สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน" โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่นายคิมได้ออกมาขู่ว่าเขาจะไม่ยอมยกเลิกการพัฒนาขีปนาวุธ หากสหรัฐไม่ยอมผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรให้กับเกาหลีเหนือ

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวต่อผู้สื่อข่าวในวันนี้ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐประสบปัญหาขัดข้องทางเทคนิคในเดือนที่แล้ว แต่ตลาดจะฟื้นตัวขึ้น ทันทีที่สหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับจีน

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวซบเซาในปีที่แล้ว โดยดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติทรุดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลกเมื่อ 10 ปีก่อนหน้านี้

-- นางไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน ปฏิเสธข้อเสนอของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในการเจรจาเพื่อการรวมชาติอย่างสันติ

"ดิฉันขอชี้ว่า เราไม่เคยยอมรับ "ฉันทามติ 1992" ตามที่จีนได้ให้คำนิยามไว้" นางไช่กล่าว และเสริมว่า เงื่อนไขดังกล่าวหมายความว่า มีเพียงจีนเดียว และจีนจะปกครองแบบ "1 ประเทศ 2 ระบบ"

นอกจากนนี้ นางไช่กล่าวว่า ไต้หวันไม่เคยยอมรับหลักการ "1 ประเทศ 2 ระบบ"

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนธ.ค.จาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนธ.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และการใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนพ.ย.

ส่วนในวันพรุ่งนี้ จีนเตรียมเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนธ.ค.จากไฉซิน ขณะที่อังกฤษเตรียมเปิดเผยราคาบ้านเดือนธ.ค.จากเนชั่นไวด์ ทางด้านมาร์กิตเตรียมเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการของอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมี ยูโรโซน และสหรัฐ ขณะที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ