ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 171.14 จุด หรือ 0.70% เมื่อคืนนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) และยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งสถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานานกว่า 1 เดือน
-- หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ของสหรัฐ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า นายมิค มัลวานีย์ รักษาการเสนาธิการทำเนียบขาว ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตามหน่วยงานรัฐต่างๆ เร่งประเมินผลกระทบและจัดทำรายงานชี้แจงโครงการที่จะก่อให้เกิดความเสียหายมากที่สุด หากการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) ยืดเยื้อไปถึงเดือนมี.ค.-เม.ย.
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวบ่งชี้ว่า ทางทำเนียบขาวกำลังหาแนวทางรับมือกับผลกระทบดังกล่าว เพราะคาดการณ์ว่าเหตุการณ์ชัตดาวน์น่าจะยืดเยื้อไปอีกสักระยะหนึ่ง โดยนายมัลวานีย์ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่นำส่งรายงานชี้แจงดังกล่าวภายในวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ
ทั้งนี้ เหตุการณ์ชัตดาวน์ยืดเยื้อมาเป็นสัปดาห์ที่ 5 แล้ว และยังคงมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป ทั้งยังเป็นสถิติที่นานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐด้วย
-- นักลงทุนในตลาดการเงินต่างพากันวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐ โดยนายเควิน แฮสเซทท์ ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐอาจมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 0% ในไตรมาสแรก หากการชัตดาวน์ยังคงยืดเยื้อต่อไป
ขณะที่นักวิเคราะห์จากบาร์เคลย์สประกาศปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสแรกสู่ระดับ 2.5% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 3% โดยมีสาเหตุจากปัญหาชัตดาวน์ ชัตดาวน์
-- ตลาดการเงินจับตาวุฒิสภาสหรัฐเตรียมโหวตร่างกฎหมายงบประมาณ 2 ฉบับในวันนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อยุติภาวะที่หน่วยงานของรัฐบาลต้องปิดทำการชั่วคราว (ชัตดาวน์) ซึ่งยืดเยื้อมาเป็นเวลานานกว่า 1 เดือนแล้ว
ร่างกฎหมายงบประมาณ 2 ฉบับที่จะมีการลงมติในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ จะมีฉบับหนึ่งที่รวมงบประมาณสำหรับสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงิน 5.7 พันล้านดอลลาร์ตามคำเรียกร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่วนอีกฉบับหนึ่งจะเป็นร่างกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลที่ถูกชัตดาวน์นั้น มีงบประมาณใช้จ่ายไปจนถึงวันที่ 8 ก.พ.
อย่างไรก็ตาม แม้ทั้งสองฝ่ายมีท่าทีอ่อนลง แต่คาดว่าร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับอาจจะเผชิญกับความไม่แน่นอนในวุฒิสภา จากการที่ปธน.ทรัมป์ได้ออกมาขู่ว่า เขาจะวีโต้ร่างกฎหมายฉบับใดก็ตามที่ไม่รวมงบประมาณในการสร้างกำแพง
-- นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ยืนกรานเมื่อวานนี้ว่า พรรคเดโมแครตจะไม่อนุญาตให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรสในห้องประชุมของสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 29 ม.ค. จนกว่าการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) จะยุติลง
ตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐจะกล่าวแถลงนโยบายประจำปีในห้องประชุมของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งในทางเทคนิคแล้ว นางเพโลซีสามารถสั่งห้ามปธน.ทรัมป์เข้าห้องประชุมดังกล่าว และต่อมาทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องหารือกัน และผ่านมติในการกำหนดสถานที่ซึ่งปธน.ทรัมป์จะใช้แถลงนโยบาย
-- นายเลียม ฟ็อกซ์ รมว.การค้าของอังกฤษ กล่าวในการประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส ว่า อังกฤษมีแนวโน้มที่จะต้องแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปแบบปราศจากเงื่อนไข (no-deal Brexit) โดยระบุว่า สิ่งที่อันตรายที่สุดสำหรับอังกฤษคือการที่หลายคนไม่ยอมเคารพผลของการทำประชามติเมื่อปี 2559
ทั้งนี้ เหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 สัปดาห์ก่อนที่จะถึงกำหนดการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป โดยนายฟ็อกซ์กล่าวว่า เขายอมรับได้หากมีการเลื่อนเส้นตายออกไป เพื่อจัดการเรื่องการทำข้อตกลงให้เสร็จสิ้น
-- ราคาหุ้นดอยซ์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของเยอรมนี และหุ้น Danske Bank ซึ่งเป็นธนาคารของเดนมาร์ก ต่างก็ร่วงลงกว่า 1% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กำลังดำเนินการตรวจสอบว่า ดอยซ์แบงก์ มีส่วนพัวพันกับกรณีการฟอกเงินของธนาคาร Danske Bank หรือไม่ โดยในเบื้องต้น เฟดกำลังตรวจสอบว่า ดอยซ์แบงก์มีแนวทางอย่างไรในการจัดการกับเม็ดเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากธนาคาร Danske Bank สาขาเอสโตเนีย
อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารได้ออกแถลงการณ์ว่า ในขณะนี้ยังไม่มีการสืบสวนใด ๆ ทั้งสิ้น
-- เกิดเหตุคนร้ายใช้ปืนกราดยิงในธนาคารซันทรัสต์ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเซบริง รัฐฟลอริดาของสหรัฐ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเย็นวันพุธตามเวลาท้องถิ่น
เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองเซบริงเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้คือนายเซเฟน เซเวอร์ วัย 21 ปี และขณะนี้ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว
-- บริษัทโซนี่ คอร์ปอเรชั่น ประกาศย้ายสำนักงานใหญ่ประจำยุโรปออกจากสหราชอาณาจักรเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการที่สหราชอาณาจักรแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit)
โซนี่นับเป็นบริษัทอิเลคทรอนิคส์รายล่าสุดของญี่ปุ่นที่ได้ดำเนินการดังกล่าว หลังจากที่บริษัทพานาโซนิคประกาศย้ายสำนักงานใหญ่ในปีที่แล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะซับซ้อนด้านภาษีจากปัจจัย Brexit
-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย พร้อมกับคงเป้าหมายผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี และมาตรการซื้อสินทรัพย์ในการประชุมเมื่อวานนี้
ทั้งนี้ BOJ จะยังคงใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นที่ระดับติดลบ 0.1% และคงเป้าหมายผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวไว้ใกล้กับระดับศูนย์ นอกจากนี้ BOJ ยังได้คงนโยบายการซื้อสินทรัพย์เสี่ยง เช่น กองทุน ETF นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการ BOJได้แถลงต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ว่า อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นมีแนวโน้มชะลอตัวลง แต่คาดว่าเงินเฟ้อจะยังคงได้รับแรงผลักดันให้เคลื่อนตัวสู่เป้าหมายของ BOJ ที่ระดับ 2%
นายคุโรดะยังกล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงขาลง ซึ่งรวมถึง ข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.75% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
โดยผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ราว 200 คนซึ่งจัดทำโดยสมาคมการลงทุนด้านการเงินของเกาหลีใต้พบว่า 99% ของนักวิเคราะห์ที่ได้รับการสำรวจ คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางเกาหลีใต้จะตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ โดยมาร์กิตจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้น และดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องเดือนม.ค.ของประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี สหภาพยุโรป และสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้เช่นกัน
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. และสถาบัน Ifo จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนม.ค.ของเยอรมนี