สื่อต่างประเทศรายงานว่า บรรดาประธานบริหารของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งจากจีนและทั่วโลก ต่างออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่จัดขึ้นเป็นส่วนตัว นอกรอบการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิค ฟอรั่ม (WEF) ในเมืองดาวอสของสวิตเซอร์แลนด์
สำหรับผู้นำบริษัทที่เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำครั้งนี้ มีทั้งจากบริษัทอาลีบาบา, เอชเอสบีซี, สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด, มอร์แกน สแตนลีย์ และซีเมนส์
รายงานข่าวระบุว่า ผู้บริหารกลุ่มนี้ได้แสดงความกังวลต่อนายเสี่ยว หยาชิง ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและบริหารจัดการทรัพย์สินในสังกัดรัฐบาลจีน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์ของจีน เพื่อใช้เวที WEF เรียกเสียงสนับสนุนจากประชาคมโลก ก่อนสหรัฐและจีนจะกลับมาเจรจาการค้าอีกครั้งสิ้นเดือนนี้
ทั้งนี้ คณะผู้แทนเจรจาการค้าของจีน นำโดยนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรี มีกำหนดพบหารือกับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าของสหรัฐ ระหว่างวันที่ 30 - 31 มกราคมนี้
นายแลร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวของสหรัฐ เปิดเผยว่า การเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีขอบเขตที่กว้าง และลึกซึ้งกว่าที่เคยผ่านการหารือกันมา แต่ผลลัพธ์สุดท้ายจะขึ้นอยู่กับการตรวจสอบข้อตกลงของจีนด้วย
ขณะเดียวกัน นายคุดโลว์ย้ำว่า การประชุมดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่งและจะเป็นการประชุมที่ตัดสินชี้ขาดถึงอนาคตของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
นอกจากนี้ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวยอมรับถึงระดับของความยากลำบาก และกล่าวด้วยว่า ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่าจะสามารถยอมรับได้หรือไม่