ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (4 มี.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างร่วงลงในเดือนธ.ค. ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ การร่วงลงของหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพและกลุ่มประกันสุขภาพยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นดิ่งลงเช่นกัน หลังจากที่ในช่วงแรก ตลาดได้รับแรงหนุนจากการความหวังเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
-- รัฐบาลจีนเปิดเผยรายงานกรอบการดำเนินงานต่อสื่อมวลชนก่อนการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ชุดที่ 13 ครั้งที่ 2 ในเช้าวันนี้ โดยรัฐบาลจีนได้กำหนดเป้าหมายการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ 6-6.5% สำหรับปี 2562
ขณะเดียวกันรัฐบาลจีนตั้งเป้าที่จะรักษาระดับเงินเฟ้อด้านราคาผู้บริโภคไว้ที่ราว 3% และการสร้างงานในเขตเมืองจำนวนกว่า 11 ล้าน ตำแหน่ง นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังเตรียมลดภาระด้านภาษีและการเก็บเงินสมทบเข้าประกันสังคมขององค์กรต่าง ๆ รวมกันเกือบ 2 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 2.98 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปีนี้
-- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สหรัฐและจีน สองประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกเข้าใกล้การบรรลุข้อตกลงทางการค้าในเร็ววันนี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐและนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีนจะได้ร่วมลงนามอย่างเร็วที่สุดภายในเดือนนี้ แต่ตั้งข้อสังเกตว่า การบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างกันอาจไม่ได้นำมาซึ่งการยุติสงครามการค้า เนื่องจากนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าของสหรัฐกล่าวกับสภาคองเกรสระบุว่า ยังมีอีกหลายประเด็นในข้อตกลงที่สหรัฐต้องการทำให้มั่นใจว่ารัฐบาลจีนจะดำเนินการตามข้อผูกพันอย่างเคร่งครัด ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์เตือนว่า ตนสามารถเดินออกจากการประชุมกับจีนได้เหมือนกับที่เคยเดินออกจากการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 กับนายคิม จอง อึน ผู้นำของเกาหลีเหนือ ระหว่างการหารือเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์ในเวียดนามด้วย
-- นายเควิน แฮสเซตต์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าของสหรัฐ (USTR) ประสบความคืบหน้าในการเจรจาการค้ากับจีน โดยสหรัฐและจีนอาจบรรลุข้อตกลงทางการค้า
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า สหรัฐอาจยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าเกือบทุกรายการที่ได้บังคับใช้กับจีนตั้งแต่ปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า สหรัฐและจีน "อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการทำข้อตกลงการค้า" โดยจีนเสนอที่จะปรับลดภาษีนำเข้า และผ่อนคลายกฎระเบียบด้านการนำเข้าสินค้าเกษตร เคมีภัณฑ์ รถยนต์ และสินค้าอื่นๆจากสหรัฐ
-- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐปฏิรายงานที่ระบุว่าตนได้มีคำสั่งให้ยุติปฏิบัติการฝึกซ้อมรบร่วมประจำปีครั้งสำคัญระหว่างกองทัพสหรัฐและเกาหลีใต้ เพื่ออ่อนข้อให้นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ
ทางการสหรัฐประกาศยุติปฏิบัติการซ้อมรบร่วมประจำปีครั้งใหญ่กับเกาหลีใต้ที่ก่อนหน้านี้มีขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมในกรณีที่เกิดความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือ เพียงไม่นานหลังการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือในกรุงฮานอยของเวียดนาม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ประธานาธิบดีทรัมป์ปฏิเสธความเกี่ยวข้องดังกล่าว โดยทวีตข้อความระบุว่า "การปฏิบัติการทางทหารหรือการซ้อมรบนั้นไม่ได้รับการหยิบยกขึ้นมาหารือระหว่างการประชุมสุดยอดกับคิม จอง-อึน" และ "ผมได้ตัดสินใจเรื่องนี้มานานแล้ว เพราะใช้งบประมาณของประเทศค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราไม่ได้รับสิ่งตอบแทนจากค่าใช้จ่ายมหาศาลเหล่านั้น"
-- นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือเดินทางถึงกรุงเปียงยางแล้วในวันนี้ สิ้นสุดภารกิจการเดินทางด้วยรถไฟขบวนพิเศษระยะทาง 4,000 กิโลเมตรที่พาดผ่านจีน หลังจากที่การประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ระหว่างตนกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐ ยุติลงโดยปราศจากการทำข้อตกลงนิวเคลียร์
สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือรายงานว่า "เมื่อเวลา 03.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นในวันนี้ ขบวนรถไฟของประธานคิมเข้าเทียบชานชลาในกรุงเปียงยาง ท่ามกลางเจ้าหน้าที่อาวุโสที่รอให้การต้อนรับอย่างเนืองแน่น"
-- ทำเนียบเครมลินแถลงว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ลงนามในกฤษฎีกาในการออกคำสั่งระงับรัสเซียจากการเข้าร่วมสนธิสัญญาควบคุมอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง (INF) กับทางสหรัฐ
ทั้งนี้ ปธน.ปูตินสั่งระงับการบังคับใช้สนธิสัญญา INF จนกว่าสหรัฐจะยุติการละเมิดสนธิสัญญาดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลรัสเซียประกาศในเดือนที่แล้วว่า รัสเซียเตรียมระงับการบังคับใช้สนธิสัญญา INF หลังจากที่สหรัฐขู่ว่าจะถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าว โดยอ้างว่ารัสเซียละเมิดสนธิสัญญาดังกล่าว ขณะที่รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาของสหรัฐ และระบุว่าสหรัฐเป็นฝ่ายละเมิดสัญญา
-- สื่ออินเดียรายงานอ้างแหล่งข่าวระบุว่า เครื่องบินรบซุคฮอย-30 ของกองทัพอินเดียยิงเข้าใส่อากาศยานไร้คนขับหรือโดรนของกองทัพปากีสถาน ซึ่งบินอย่างไร้ทิศทางอยู่บริเวณพรมแดน ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
นอกจากนี้ยังรายงานด้วยว่า เครื่องบินรบเปิดฉากยิงโดรนลำดังกล่าวด้วยขีปนาวุธจากอากาศสู่อากาศขณะบินอยู่เหนือน่านฟ้าใกล้กับรัฐราชสถาน ทางตอนเหนือของอินเดีย ไม่ไกลจากชายแดนปากีสถาน ถือเป็นความพยายามครั้งที่ 2 ของปากีสถานในการส่งโดรนข้ามเข้ามายังอินเดียภายในช่วง 6 วันที่ผ่านมา หลังจากที่โดรนลำแรกถูกยิงตกเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์
-- นายฮวน กุยโด ผู้นำพรรคฝ่ายค้านที่ประกาศแต่งตั้งตัวเองเป็นรักษาการประธานาธิบดีเวเนซุเอลา เดินทางกลับถึงกรุงคารากัสแล้ว ท่ามกลางการต้อนรับจากผู้สนับสนุนหลายพันคน แม้จะต้องเผชิญกับการถูกจับกุมหลังฝ่าฝืนคำสั่งศาลฎีกาที่ระบุห้ามเดินทางออกนอกประเทศ และความเคลื่อนไหวขอความช่วยเหลือจากนานาประเทศ
ก่อนหน้านี้นายกุยโดเรียกร้องให้นายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลาลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่ประเทศต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางการเมือง จากปัญหาเศรษฐกิจย่ำแย่, อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงจนกระทบต่อเงินเดือนและเงินออม ส่งผลทำให้ประชาชนจำนวนมากเดินทางออกนอกประเทศ
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2561 และอัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ. ขระที่ไฉซินเตรียมเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.พ.ของจีน ทางด้านธนาคารกลางออสเตรเลียจะประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย ส่วนมาร์กิตจะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.พ.ของฝรั่งเศส เยอรมนี อียู และอังกฤษ นอกจากนี้ ทางการสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีภาคบริการเดือนก.พ. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค.
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนก.พ. ออสเตรเลียจะเปิดเผบผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2561 ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ.จาก ADP ดุลการค้าเดือนธ.ค. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเช้าวันที่ 7 มี.ค.